เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์ป้องกันและตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด แก่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารบก อาทิ กล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว อากาศยานไร้คนขับ กล้องอำพรางแบบเคลื่อนที่ ชุดเฝ้าตรวจระยะไกลทางยุทธวิธีชนิดกระเป๋าหิ้ว เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
โดยมี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมด้วย
โดยนายกฯ เดินชมอุปกรณ์ ก่อนสอบถามว่าอุปกรณ์คืออะไรบ้าง และมีการสอบถามว่าโดรนใช้อย่างไร ถ้าฝ่ายตรงข้ามมีโดรนบิน เราก็ใช้โดรนของเรายิงตกได้ใช่หรือไม่ ส่วนรถโฟร์วีลใช้ทางลาดได้ดี ฝากกองทัพบกให้ดูแลเรื่องรถยนต์ด้วย ให้เพียงพอ เพราะว่ารถยนต์ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังหันไปสอบถามว่า ผู้ปฏิบัติแนวหน้าทั้งหลายพอใจหรือไม่ที่ได้มาขนาดนี้ แต่ก็จะทยอยๆ มา ก่อนถามอีกว่า เจ้าหน้าที่ว่าพอใจกับอุปกรณ์หรือไม่ด้วย รวมถึงสอบถามอีกว่าเราพบหรือยังว่ามีการใช้โดรนขนยาเสพติด
โดยเจ้าหน้าที่ตอบว่า ยังไม่มี ก่อนที่นายกฯ กล่าวว่า แต่ที่สหรัฐอเมริกามี และปัจจุบันมีการขนถ่ายสินค้า โดยไม่มีคนขับในการขนส่งยาเสพติดเคยพบบ้างหรือไม่ ด้านเลขาฯ ป.ป.ส. กล่าวว่า ยังไม่มี โดยเร็วๆ นี้ จะจัดให้มีการประชุมร่วมกับท้องถิ่น 8 แขวงนครเวียงจันทน์ ประเทศลาว
จากนั้นนายกฯ กล่าวเนื่องในโอกาสมอบอุปกรณ์ ว่า เรื่องยาเสพติดอย่างที่เรียนว่าเป็นวาระแห่งชาติ สืบเนื่องจากที่ทางรัฐบาลร่วมกับกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ป.ป.ส. และกระทรวงสาธารณสุข กวาดล้างยาเสพติดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำให้หมด โดยเรามีมาตรการที่เราจะออกไปสำหรับ 2 จังหวัดก่อน คือ จังหวัดน่านและจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ให้เป็นจังหวัดสีขาวทั้งหมด
ฉะนั้นตนได้มาเน้นกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเรื่องของอุปกรณ์เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ท่านก็เห็นแล้วว่าเราพยายามที่จะทำให้เยอะที่สุด ตั้งแต่การป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ เป็นภาคที่มีพื้นที่ราบสูงเยอะ ฉะนั้นการใช้รถโฟร์วีลก็สำคัญ ซึ่งตรงนี้ตนได้สั่งการให้เลขาฯ ป.ป.ส. ไปดูว่าในประเทศที่เริ่มมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ในการขนถ่ายยาเสพติดเขาทำกันอย่างไรบ้าง อย่างเช่น ที่เม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้โดรนเป็นตัวขนส่งยาเสพติด ซึ่งเราจะต้องพัฒนา จะต้องมีการไปประชุมและหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า ไม่ใช้แค่ยาบ้าอย่างเดียว เรื่องของเฮโรอีนเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตลาดที่สำคัญที่สุดที่จะผ่านไทยและส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และออสเตรีย ซึ่งบ่ายวันเดียวกันนี้ ตนจะพูดคุยกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ว่าเราจะร่วมมือกันได้อย่างไรในการที่จะตัดตอนเรื่องของการส่งเฮโรอีนออกไป เพราะมูลค่าที่จับดูเพิ่มมากขึ้นและเยอะมาก เมื่อตอนต้นตนโทรศัพท์หารือกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ว่าท่านจะเข้ามาพูดคุยกับตนอาทิตย์หน้า เรื่องว่าจะทำอย่างไรในการช่วยเหลือตัดตอนเรื่องยาเสพติดทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากและต้องทำงานอย่างบูรณาการทุกภาคส่วน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตรงนี้ตนถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี มีการกล่าวถึงกองทัพภาคที่ 3 เยอะมาก ไม่ใช่ว่าจะพูดแต่กองทัพภาคที่ 3 เช่น กองทัพภาคที่ 2 ภาคอีสานไม่ให้ความสำคัญ แต่กองทัพภาคที่ 3 มีการทำงานบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองกันได้อย่างดี ถือเป็นโมเดลไปสู่ภาคต่างๆ ด้วย โดยการทำงานร่วมมือกันอย่างดี มีรายละเอียดปีกย่อยเยอะที่ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์
นายกฯ กล่าวอีกว่า เราต้องให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ รวมถึงอาวุธยุทธโธปกรณ์จะต้องพร้อม เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัย จึงเป็นเรื่องสำคัญและอีกเรื่องถ้าเราจับกุมได้จะต้องมีการให้รางวัลกันอย่างไร เรื่องนี้ต้องไปดูแลให้ดี เรื่องการแบ่งสันปันส่วนให้มีความพร้อมเหมาะสม เราอยากให้ทำงานกันอย่างร่วมมือ ร่วมใจกันอย่างไม่มีข้อติดใจกันว่าจะแบ่งผลประโยชน์กัน ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เขาเข้ามาเรื่องนี้ หรือมีประเด็นกับตนเรื่องนี้ แต่เราในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา ต้องดูแลเรื่องนี้ให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เรื่องระยะเวลาในการได้ผลประโยชน์ตอบแทนถือเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ใช้เวลาตั้ง 5-6 ปีถึงจะได้ เกษียณไปแล้วก็ยังไม่ได้ ฉะนั้นจะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน เมื่อยึดทรัพย์มาแล้วก็ให้ไปส่วนหนึ่ง หรือตอนที่จับได้ จะต้องแบ่งเป็นสินน้ำใจไปส่วนหนึ่ง
เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ต้องการอุปกรณ์เยอะมาก นอกจากงบของเหล่าทัพแล้ว จะมีงบตรงไหนมาเสริม และจะมีการพูดคุยกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติด (ดีอีเอ) ของสหรัฐ ผ่านทางตำรวจให้มากขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ที่ผู้สื่อข่าวพูดมาครบ ตนพูดไปแล้วกับ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ท่านจะไปเตรียมการบ้านเพื่อพูดคุยกับตน และวันนี้จะเป็นการพูดคุยกับ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย เป็นครั้งแรก ส่วนเรื่องงบประมาณเสริมไม่ต้องห่วง ทางเราเต็มที่ ก่อนที่ตนจะลงมาแถลงข่าว ตนได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ ผบ.ทบ. เรื่องยาเสพติด เพราะถือว่าเป็นเรื่องสำคัญยืนยืนยันว่าเรื่องอุปกรณ์ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซับซ้อนในการลำเลียงเข้ามาทถือว่ามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
เมื่อถามต่อว่า มีเรื่องหนึ่งที่กองกำลังผาเมืองรายงานมา จากสถานการณ์เมียนมาที่สู้รบกัน ทำให้ชนกลุ่มน้อยเพิ่มกำลังการผลิตยาเสพติดเพิ่มขึ้น ตรงนี้จะช่วยกันแก้ปัญหาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นประเด็นที่สำคัญที่เราต้องหยิบยกขึ้นมาพูดคุย ไม่ใช่แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย เป็นประเด็นความมั่นคงในประเทศเขา ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นข้อแก้ตัวการที่เราไม่ทำงานกัน ซึ่งเราก็พูดคุยกับ ผบ.ทบ. เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องมีการพูดคุยและประสานงานกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศด้วย อีกภาคส่วนหนึ่งที่เราพูดน้อย คือ กระทรวงสาธารณสุข เพราะจับมาแล้วต้องฟื้นฟูดูแล ถือเป็นเรื่องสำคัญ ท่านไม่สามารถทำคนเดียว ต้องทำร่วมกับกองทัพ อย่างโมเดลที่จังหวัดน่าน ซึ่งถือเป็นพื้นที่บำบัดครบวงจร
เมื่อถามอีกว่านายกฯ อุ่นใจหรือไม่ มีทั้งทหารและตำรวจมาร่วมกัน นายเศรษฐา กล่าวว่า อุ่นใจในแง่ของการทำงานเป็นทีมไทยแลนด์ แต่ไม่อุ่นใจในแง่ของปัญหาที่เยอะมากเหลือเกิน ไม่ใช่ค่อยๆ ทำ ก็ต้องเร่งรีบทำกันไป.