เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่ห้องประชุม 1201 ชั้น 12 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับฟังการดำเนินงานด้านยาเสพติดของสำนักงาน ปปง. โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และคณะต้อนรับ
โดยเมื่อเดินทางถึงบริเวณชั้น 12 นายกฯ ได้ร่วมถ่ายภาพกับคณะผู้บริหาร จากนั้นเลขาธิการ ปปง. รายงานสรุปผลการดำเนินงานด้านยาเสพติดของ สนง.ปปง. กล่าวรายงานว่า ผลการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการปรับปรามยาเสพติด โดยการดำเนินการเที่ยวกับทรัพย์สินในมูลฐานยาเสพติด รอบปี 2566-2567 ผลการดำเนินการยึด-อายัดทรัพย์สิน ปี 2566-2567 สำนักงาน ปปง. ยึด อายัดทรัพย์สินรวมกว่า 523,474,645 บาท สำหรับผลการดำเนินการในรายคดีที่สำคัญในความผิดมูลฐานยาเสพติด ประกอบด้วย กลุ่มเครือช่ายอาเสพติด นายทุน มิน หลัด กับพวก 48 ล้านบาท นายอานนท์ อ่อนสาคร กับพวก 35 ล้านบาท นายณัฏธพงศ์ งามเมธาวงศ์ กับพวก 7 ล้านบาท นายเจริญ รัตนวรรณ กับพวก 16 ล้านบาท นายประสิทธิ์ ชีวินบิชิปัญญา หรือเหว่ย เชี๊ยะกิจ กับพวก 0.24 ล้านบาท นายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว นายกรณ์ ชายานันท์ กับพวก (เพิ่มเติม) จำนวน 37 ล้านบาท นายฮุ้ยหวาง หวัง จำนวน 53 ล้านบาท นายชาญชัย คลองหลู่ กับพวก จำนวน 100 ล้านบาท เป็นต้น
จากนั้นนายกฯ กล่าวมอบนโยบายและข้อสั่งการตอนหนึ่ง ว่า ปัจจุบันฝ่ายที่ดำเนินการจับสามารถจับได้เยอะ 4-5 เท่า แต่ราคายาบ้าไม่เพิ่มขึ้น มีการนำเข้ามาเยอะมากและต้นทุนการผลิตต่ำ ถ้าเราจับหรือยึดทรัพย์ได้ก็ต้องรีบดำเนินการ ให้เร็วที่สุด ไม่ใช่บางคดียึดทรัพย์ บางคดีไม่ยึดทรัพย์ และต้องพิสูจน์ทรัพย์ว่าได้มาอย่างไรและจะมีการฟอกเงินหรือไม่ อยากดูขั้นตอนต่างๆ ด้วย เคสเล็กๆ เข้ามาเยอะ ไม่ใช่ว่าไม่ให้ทำ แต่ให้เรียงลำดับความสำคัญ กรณีเคสใหญ่มีวงเงินมากอย่ามัวแต่ช้า ต้องเร่งปฏิบัติในการยึดทรัพย์ เพราะทุกวันนี้ธุรกรรมทางการเงิน เรื่องการโยกย้ายสะดวกสบายผ่านวิธีการต่างๆ ฉะนั้นอย่ามัวแต่ช้า เรามีกฎหมายอยู่แล้วมีอำนาจอยู่แล้ว ต้องใช้อำนาจยึดมาก่อน และประชาชนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นายกฯ กล่าวเน้นย้ำว่า ต้องสร้างขวัญและกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ หน่วยงานนี้เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจพิเศษเยอะมีอำนาจสูง ดังนั้นเรื่องที่ต้องมีการยึดทรัพย์ เพราะต้องการตัดต้นตอการผลิตทั้งหมดออกไป ซึ่งต้องการให้เรื่องนี้เป็นไปอย่างคืบหน้า เรื่องของการดำเนินการยึดทรัพย์ว่า อยากให้กระทำโดยเร็ว อย่าให้เป็นข้อครหานินทากับคนอื่นและอยากให้เข้มงวดมากขึ้นเรื่องของการทำงานเชิงรุกถือเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงการให้องค์ความรู้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและการทำงานเชิงรุก ไม่ใช่เพียงแค่การประชาสัมพันธ์เราต้องล้วงลูกจริงๆ และยึดทรัพย์ให้ได้โดยเร็ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราคิดว่า ก็ไม่ได้อยากมาที่ ปปง. สักเท่าไหร่ ท่านมีองค์ความรู้อยู่แล้ว ท่านประธานเองก็ดูแลดีอยู่แล้ว แต่อยากมาส่งข้อความว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ สังคมกำลังจับตาดูอยู่ในเรื่องของยาเสพติด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันทั้งหมด หากยังมีกระแสเงินอยู่ก็ไม่จบ ต้องต่อจิ๊กซอว์ให้ครบทุกภาคส่วน เพราะเรื่องของยาเสพติดเป็นสารตั้งต้นของปัญหาต่างๆ ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี และทำควบคู่กันไป ก็เป็นการตัดต้นตอการผลิต และตัดต้นตอของแหล่งเงิน
“นอกจากนี้อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), ปปง. ดำเนินการเร่งขยายผลปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้มีการบังคับใช้และกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด บูรณาการเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อยึดอายัดทรัพย์ของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดกับวงจรของผู้ค้ายาเสพติดในรูปแบบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานร่วมมือในการสืบทรัพย์สินของผู้ดำเนินความผิด เพื่อประโยชน์ของการปราบปราม ทำลายโครงสร้างเรื่องยาเสพติดให้ตำรวจ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือ รวมถึงเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ด้วย เร่งทำงานเชิงรุกปิดเว็บไซต์ ขยายผลถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและใช้มาตรการทางกฎหมายในการยึดทรัพย์อย่างเข้มงวด เพื่อตัดวงจรการกระทำผิดและวงจรของเจ้าของเว็บไซต์ ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ตัดตอนการโอนเงิน โดยเฉพาะบัญชีม้า ไปจนถึงการยึดทรัพย์ เพื่อมาเยียวยาผู้เสียหาย ตลอดจนหาแนวทางการแก้ไขธุรกรรมทางการเงินให้รัดกุมเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกหลอกลวง“ นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่าประมาท ฝ่ายแนวรุกที่ลงพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคต่างๆ ก็มีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่ง ปปง. ไม่ใช่หน่วยงานแนวหน้า แต่ก็ขออย่าประมาท ให้ดูแลความปลอดภัยของตัวเองด้วย พัฒนาตนเองด้วยองค์ความรู้ใหม่ๆ ขนขวายศึกษาเรียนรู้ วิธีการให้เท่าทันมิจฉาชีพ โดยไปขอความร่วมมือจากธนาคาร ที่สนับสนุนให้พนักงานของเราไปเรียนรู้งานให้มากขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ ในสิ้นไตรมาสนี้ เราจะมาพูดคุยกันอีกครั้ง โดยเฉพาะการตัดตอน หากไม่มีเงินทุนก็ทำไม่ได้ ทั้งนี้ แถ้าหากหน่วยงานใดต้องการประสานงานเป็นพิเศษก็ขอให้บอก อยากให้ทำงานร่วมกันให้เยอะๆ อย่าทำงานเป็นไซโล ให้ทำงานเชิงรุกให้มองปัญหาไปข้างหน้า ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน.