เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราว พิจารณาวาระเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ภายหลังจากที่บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทั้ง 4 คน ได้แก่ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. นายนพดล อินนา สว. นายปฏิมา จีระแพทย์ สว. และนายแล วิทยดิลกรัตน์ สว. แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมวุฒิสภา เป็นเวลาคนละ 5 นาที แล้วเสร็จ

ในเวลา 13.45 น. ที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติโดยขานชื่อเป็นรายบุคคลตามลำดับเลขที่สมาชิกทั้ง 200 ลำดับ เพื่อเข้าคูหาลงคะแนนแบบลับ เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง จนในเวลา 15.30 น. ที่ประชุมได้แจ้งผลลงคะแนนเลือก พล.อ.เกรียงไกร เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ด้วยคะแนนเสียง 150  เสียง นายนพดล ได้รับคะแนนเสียง 27 เสียง นายปฏิมา ได้รับคะแนนเสียง 5 เสียง และนายแล ได้รับคะแนนเสียง 16 เสียง ทั้งนี้ งดออกเสียง ไม่มี พบบัตรเสียจำนวน 2 ใบ โดยหนึ่งในนั้นมาจากบัตรลงคะแนนที่สมาชิกได้เขียนลงคะแนนให้ พล.อ.เกรียงไกร แต่เขียนชื่อผิดเป็น พล.อ.เกรียงศักดิ์ จึงทำให้บัตรลงคะแนนเสียงดังกล่าวกลายเป็นบัตรเสียทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. ในฐานะตัวแทนกรรมการผู้ขานชื่อนับคะแนน ได้ขานชื่อมาถึงคนที่ 200 ปรากฏว่าใบลงคะแนนได้เขียนเป็นตัวเลข จึงขานว่าเป็นบัตรเสีย แต่ พ.ต.อ.กอบ ได้ขานต่อจากนั้นว่ามีงดออกเสียงมาอีก 1 เสียง ทำให้มีสมาชิกเกินมาเป็น 201 คน

ทางประธานที่ประชุมจึงแจ้งว่า มีข้อผิดพลาด พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่เริ่มนับคะแนนใหม่ แต่ก็มีสมาชิกท้วงว่า หน้าจอแสดงผลการนับคะแนน ไม่ได้แสดงผลคะแนนที่งดออกเสียง ก็เท่ากับว่าลงคะแนนครบทั้ง 200 คนแล้ว

ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ลุกขึ้นหารือว่า แม้ว่าจะมีคะแนนเกินมา 1 เสียง แต่ไม่ได้ส่งผลต่อผู้ที่ได้รับเลือก จึงอยากขอให้เพียงรีเพลย์ภาพย้อนกลับไปดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าหากมีการกลับไปเริ่มนับคะแนนใหม่จะทำให้เสียเวลาไปมากกว่านี้

แต่ทาง พล.ต.ท.ยุทธนา ในฐานะประธานการประชุมชั่วคราว ชี้แจงว่า การลงคะแนนจะมีการบันทึกเป็นหลักฐาน ถ้าหากว่าบันทึกไปแล้วมีความผิดพลาด จะทำให้วุฒิสภาเสื่อมเสียได้ ซึ่งมีสมาชิกบางส่วนเห็นด้วยให้เริ่มนับคะแนนใหม่ เพื่อสร้างมาตรฐานความโปร่งใส ทั้งนี้ มีสมาชิกอีกบางส่วนพยายามเสนอให้แยกไปนับคะแนนเป็นการเฉพาะตรงจุดที่มีปัญหาแบบเป็นการภายใน เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลาไปเริ่มนับคะแนนใหม่

แต่ท้ายที่สุดแล้วประธานที่ประชุมจึงมีมติสั่งเริ่มนับคะแนนใหม่ ซึ่งเริ่มนับคะแนนใหม่ตั้งแต่ลำดับที่ 1 ในเวลา 15.38 น.