พลตำรวจเอก พัชรวาท  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่ปรึกษาคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46  เปิดเผยว่า วันนี้ (27 กรกฎาคม 2567) ได้รับรายงานจากนายสีหศักดิ์  พวงเกตุแก้ว  หัวหน้าคณะผู้แทนไทย และนายประเสริฐ  ศิรินภาพร  เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับความคืบหน้าการนำเสนอ ภูพระบาท เป็นมรดกโลก ว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ในเวลาประมาณ 11.30 น. ตามเวลาประเทศอินเดีย  คณะกรรมการมรดกโลก  ซึ่งมี H.E. Mr Vishal V. Sharma เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการนำเสนอ “ภูพระบาท” เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมประเภทภูมิทัศน์วัฒนธรรม แล้ว ภายใต้หลักเกณฑ์การนำเสนอจำนวน 2 ข้อ คือ ข้อที่ 3 และข้อที่ 5  โดยแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมสีมาที่ปรากฏอยู่ในพื้นที่จนถึงปัจจุบัน และให้เปลี่ยนชื่อเป็น         “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี”

โดยภายหลังการพิจารณาแล้วเสร็จประธานการประชุมได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกแหล่งใหม่ของไทยในครั้งนี้เป็นภาษาไทย และผู้แทนรัฐภาคีสมาชิกประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับคณะผู้แทนไทยที่ประกอบไปด้วยผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช  กรมศิลปากร  สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (กระทรวงศึกษาธิการ) และ มูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก 

การขึ้นทะเบียน “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี” ในครั้งนี้ นับเป็นนับเป็นของขวัญชิ้นใหญ่จากนานาชาติที่มอบให้กับไทยในวาะมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ด้วย

แหล่งมรดกโลก “ภูพระบาท” นับเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 8 ของไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ ๔ และเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ ๒ ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วย 2 พื้นที่ คือ 1 อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท และ  2 แหล่งวัฒนธรรมสีมา