นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (13 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 11 จังหวัด 27 สายทาง 57 แห่ง โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่ 1.จ.ขอนแก่น  2.มหาสารคาม 3.เลย 4.นนทบุรี 5.อ่างทอง 6.พระนครศรีอยุธยา 7.เพชรบูรณ์ 8.สุพรรณบุรี 9.ตราด 10.จันทบุรี และ 11.ปราจีนบุรี

โดยทางหลวงที่มีระดับน้ำสูง 6 สายทาง ได้แก่ ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ระดับน้ำสูง 240 ซม., ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ระดับน้ำสูง 215 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ระดับน้ำสูง 150 ซม., ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน  ระดับน้ำสูง 175 ซม., ทล.340 สาลี-สุพรรณ ระดับน้ำสูง 130 ซม. และ ทล.3594 ท่าประดู่-ฉางเกลือ ช่วง กม.ที่ 18+490 ระดับน้ำสูง 120 ซม. ซึ่งการจราจรผ่านไม่ได้ 20 แห่ง ดังนี้

1.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 240 ซม., ทล.12 ขอนแก่น-พรหมนิมิตร ช่วง กม.ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 30 ซม., ทล.2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์, ทล.2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์ 2.มหาสารคาม (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ช่วง กม.5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ระดับน้ำสูง 215 ซม. ลำน้ำชีล้นตลิ่ง มีระดับน้ำสูงขึ้น ผนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะ ทำการปิดทางลอดอุโมงค์ใต้สะพาน

3.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าแคราย)ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับใต้สะพานบางใหญ่ที่ กม.18+500 แทน, ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้ากาญจนาภิเษก) ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 แทน, ทล.307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 75 ซม.

4.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 ซม., ทล.32  นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.) ระดับน้ำสูง 90 ซม., ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (สี่แยกไฟแดงป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 ซม.

5.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.347 บางกระสั้น-บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 45 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล. 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 175 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน

6.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 130 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 7.ตราด (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.3494 ท่าประดู่-ถางเกลือ ช่วง กม.ที่ 18+490-18+570 ระดับน้ำสูง 120 ซม. ทางเลี่ยงใช้ ทล.3494 ตอนท่าประดู่-ฉางเกลือ ที่ กม.15+503 เข้าสู่ถนนสายบ้านปากพัด-บ้านหัวสวน ออกที่ทางหลวงหมายเลข 3157 ตอน บ่อไร่-แหลมค้อ ที่ กม.71+853 ระยะทางประมาณ 10 กม.

และ 8.จันทบุรี (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล. 3153 จันทบุรี-ท่าใหม่ ช่วง กม.ที่ 0+650-1+290 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทางเลี่ยงใช้เส้นทางท้องถิ่นแทน, ทล.3493 เขาไร่ยา-แพร่งขาหยั่ง ช่วง กม.ที่ 6+375-7+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ทางเลี่ยงใช้เส้นทางท้องถิ่นแทน และ ทล.3546 ท่าหลวง-ตลาดมะขาม ช่วง กม.ที่ 0+600-1+300 ระดับน้ำสูง 60 ซม. ทางเลี่ยงใช้ ทล.3277 ที่ กม.1+900 ไปออก ทล.317 ที่ กม.9+200 แทน

ทั้งนี้สั่งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้ทันท่วงที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1