เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะ ผอ.ศบค. เตรียมเป็นประธานการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.) วาระการประชุมจะมีพิจารณาแนวทางและมาตรการการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ตามที่นายกฯ ประกาศไว้ว่าจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. เบื้องต้นได้กำหนดไว้ที่​ 10 ประเทศความเสี่ยงต่ำก่อน​ ซึ่งเบื้องต้นมีประเทศ อังกฤษ สิงคโปร์ เยอรมนี จีน และอเมริกา ส่วนอีก 5 ประเทศ ศบค. จะพิจารณาในรายละเอียด หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม ปัจจัยหลักคือ จำนวนผู้ติดเชื้อของแต่ละประเทศ


ขณะเดียวกันที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ จะมีประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากผ่อนคลายและปรับมาตรการกิจการกิจกรรมต่างๆ มาครบ 14 วัน โดย ศปก.ศบค. จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาปรับระดับสีใหม่ ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือสีแดงเข้ม เหลือ 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง 29 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมหรือสีส้ม 24 จังหวัด


พร้อมกันนี้ ศปก.ศบค. จะเสนอให้ที่ประชุม ศบค. พิจารณาเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกเคหสถานหรือ เคอร์ฟิว โดยเสนอให้ขยับเวลาจากเดิม 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เป็น 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-31 ต.ค. ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้ม จะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการคือ ให้สามารถจัดการประชุมรวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี 


สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.


นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมเสนอให้ ศบค. พิจารณาสูตรฉีดวัคซีนแบบไขว้ คือฉีดแอสตราเซนเนกาตามด้วยไฟเซอร์ อีกทั้งจะมีเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการแนวทางการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พ.ย. รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนที่จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงให้ดื่มกินได้วันที่ 1 ธ.ค. โดยข้อเสนอต่างๆ จะชัดเจนอย่างไร ให้รอมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 14 ต.ค.