เมื่อวันที่ 1 ส.ค. เวลา 15.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย พร้อมด้วยเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบหมอนวดเถื่อนต่างชาติ ที่เข้ามาลักลอบประกอบอาชีพหมอนวด แย่งอาชีพคนไทย รวมถึงปัญหาการขึ้นทะเบียนหมอนวดกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ที่มีความยุ่งยากและใช้เวลานาน โดยเฉพาะต่างจังหวัด ควรมีการปรับเปลี่ยนวิธีการขึ้นทะเบียน ตลอดจนมีการตั้งคำถามว่า ยังจำป็นต้องขึ้นทะเบียน สบส.14 หรือไม่ โดยนายสมศักดิ์ เป็นผู้รับเรื่องด้วยตัวเอง พร้อมทั้งเปิดห้องประชุมร่วมพูดคุยถึงปัญหา โดยมี นพ.ทวีสิน วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้บริหารกรมฯ เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของข้อเรียกร้องนั้นตรงกับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการผลักดันให้การนวดไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ดังนั้นการขึ้นทะเบียนนั้น เห็นว่ายังมีความจำเป็นอยู่ แต่ต้องมีการจำแนกให้ชัดเจนในเรื่องของรูปแบบการนวด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การนวดเพื่อผ่อนคลาย กับการนวดรักษา ซึ่งในส่วนของการนวดรักษา ซึ่งขณะนี้ทางกรม สบส. อยู่ระหว่างการปรับปรุงการอบรม และขึ้นทะเบียนให้ชัดเจนแบ่งความเชี่ยวชาญในการรักษาอาการใดบ้าง เป็นหมอนวดเกรด A และมีการกำหนดกรอบอัตราค่านวดแผนไทย ที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้มีการแอบแฝงการนวดไทยมาขายบริการทางเพศ
“เรื่องนี้อยากให้ช่วยกันดู เพราะรัฐบาลจะส่งเสริมเรื่องการนวดอยู่แล้ว มีการผลักดันเรื่องเมดิคัลฮับ ซึ่งเราพบว่าในปีหนึ่งคนไทยป่วยเข้าโรงพยาบาลกว่า 300 ล้านครั้ง 1 คนเข้าหลายครั้ง อย่างอาการปวดต่างๆ ถ้าไม่เป็นไม่มากเขาก็ไม่เข้าโรงพยาบาล แต่ไปตามร้านนวดต่างๆ หากทำดี เชื่อว่าจะได้เงินอีกมาก ดังนั้นเราต้องช่วยกันทำเรื่องของข้อมูล และมาตรฐาน ผมให้เวลาสักทำ 2 เดือน ก่อนปีงบประมาณใหม่ อยากให้ทำให้เสร็จ เพราะผมมาอยู่ที่นี่ 3 เดือนแล้ว อยากเห็น เพื่อจะได้เดินหน้าต่อในการร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ต่อไป” นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า ถ้าตนเลิกทำงานการเมืองแล้ว ก็อยากจะไปเปิดร้านนวดไทยเหมือนกัน แล้วจะคัดหมอนวดเกรด A ไปเป็นผู้ดำเนินการนวดด้วย
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของต่างด้าวเข้ามาแย่งอาชีพนวดที่สงวนไว้ให้คนไทยนั้น ตอนนี้เฉพาะกรุงเทพฯ พบประมาณ 50,000 คน มาจาก ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และยังพบอีกมากตามจังหวัดใหญ่ๆ ต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ขณะที่คนไทย โดยเฉพาะในต่างจังหวัดกลับขึ้นทะเบียนยาก จึงอยากปรับเรื่องการขึ้นทะเบียน สบส.14 แทนที่จะให้ประชาชนเดินทางเข้ามา ซึ่งหลายพื้นที่ก็เดินทางลำบาก โดยเฉพาะต่างจังหวัด ตรงนี้เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้สำนักงานสาธาณสุขจังหวัด เป็นผู้ส่งเอกสารให้กับร้านนวด ซึ่งก็เป็นร้านที่ได้รับการรับรองจาก สบส. อยู่แล้ว ช่วยอำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียน หรือกรณีคนที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการนวดแล้ว ให้สามารถขึ้นทะเบียนได้เลย เป็นต้น.
