เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูชาติ วงศ์น้อย กำนัน ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ในพื้นที่บ้านบัวนาคพัฒนา หมู่ 12 ต.ฝายกวาง ว่ามีคนหลงป่าจำนวน 1 รายซึ่งได้ไปหาเห็ดและของป่าตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.67 พร้อมกับญาติที่รู้จักกันอีก 2 คน ที่ผ่านมาจนเวลาผ่านไปถึงช่วงบ่ายทั้ง 2 รายที่ไปด้วยกันนั้นกลับลงมาแต่ไม่พบอีกรายซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนางสุภาพ จิตรธรรมรัตน์ อายุ 57 ปี ชาวบ้าน หมู่ 12 ต.ฝายกวาง

โดยหลังจากนั้นได้มีการประสานผู้นำชุมชนในพื้นที่และชาวบ้านร่วมกว่า 50 คนออกตามหาในวันแรกแต่สุดท้ายก็ไม่พบตัวของนางสุภาพแต่อย่างใด จนกระทั่งทาง เทศบาลตำบลฝายกวางทราบเรื่องจึงได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้สูญหายขึ้น โดยมีการประสานไปยังกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจจุดเชียงคำ ทหารจาก ร.17 พัน 4 ตชด.326 อ.เชียงคำ อช.ภูซางพร้อมเครื่องจับพิกัด GPS รวมทั้งชาวบ้านกว่า 200 คน ซึ่งได้มีการวางแผนก่อนออกค้นหาและดำเนินการค้นหาตั้งแต่ที่ 31 ก.ค.67

จนมาถึงบ่ายของวันนี้มาพบตัวของนางสุภาพซึ่งเสียชีวิตอยู่กลางเขา โดยระยะทางจากจุดที่พบว่าสูญหาย ไปจนถึงจุดที่พบศพนั้นห่างออกไปกว่า 10 กม. ทั้งนี้สภาพศพของนางสุภาพนั้นไม่มีร่อยรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใดพบเพียงลอยลื่นไถลจากที่สูง โดยข้าง ๆ ศพพบ ขวดน้ำเปล่า 1 ขวด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ออกหาของป่า รองเท้า เป็นต้น

นายรัตน์ คำใส นายกเทศบาลตำบลฝายกวาง กล่าวว่า กว่าระยะเวลา 5 วันนี้ที่ผ่านมานั้นทุกฝ่ายต่างระดมทุกอย่างทั้งเครื่องมือ กำลังคนมากกว่า 200 คนพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สุนัขดมกลิ่นได้ทำการออกค้นหากันตั้งแต่เวลา 08.00 น.ของทุกวันและได้ถอนกำลังในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ซึ่งสภาพป่าส่วนใหญ่ที่ทางชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ร่วมกันค้นหานั้นมีอุปสรรคหลายอย่างทั้งในเรื่องของฝนตกตลอดระยะเวลา 4 วัน ทำให้สภาพป่าที่ค้นหานั้นปิดสนิท การเดินทางพบพื้นดินลื่นเป็นระยะรวมทั้งจำเป็นต้องนำ GPS ของเจ้าหน้าที่ อช.ภูซางติดตามตัวเพื่อจะได้รู้พิกัดของการหาครั้งนี้  จนวันนี้ทุกอย่างได้ยุติลงเมื่อทีมที่ส่งไปชุดแรก ได้พบศพของผู้ตายนอนอยู่กลางสันเขาที่มีสภาพค่อนช้างชัน จนมีการวางแผนที่จะลำเลียงลงมาซึ่งอาจจะถึงพื้นที่หมู่บ้านของผู้ตายในเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ๆ และสำหรับการค้นหาในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดีรวมทั้งเสบียงที่พี่น้องซึ่งทราบข่าวก็ได้เดินทางนำมามอบให้กับทีมที่ออกค้นหากันเป็นอย่างมาก

ด้านลูกสาวผู้ตายเปิดเผยสั้น ๆ ว่า ดีใจที่พบตัวของมารดาแต่เสียใจที่พบว่ามารดาของตนเองนั้นเสียชีวิตแล้ว ซึ่งในช่วงที่ตนทราบข่าวว่ามารดาหลงป่านั้นตนเองได้รีบกลับมาจากกรุงเทพฯเพื่อเฝ้าติดตามข่าวว่าทีมค้นหาจะเจอหรือไม่อย่างไร และหลังจากที่ทราบข่าวว่าพบตัวแล้ว แต่ไร้ซึ่งลมหายใจทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจและยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ตนเองขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันค้นหามารดาของตนเองจนพบตลอดระยะเวลากว่า 5 วันที่ผ่านมา