เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง ในวันที่ 7 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล และเป็นวันเดียวกันกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในส่วนของการประชุมสภานั้น เราได้รับการประสานจากวิปพรรคก้าวไกล ซึ่งขอว่าอยากให้เลิกประชุมเร็วขึ้น และควรปรับเวลาให้ตรงกัน โดยเราก็ให้กำลังใจ สส.พรรคก้าวไกล สมาชิกพรรค ตลอดจนโหวตเตอร์พรรค ในการที่จะต้องถูกพิพากษา ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าจะออกมาบวกหรือลบอย่างไร ในอดีตพรรคไทยรักไทยก็โดนมาหมดแล้ว เราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาเราก็ยอมรับ แต่ครั้งนี้ไม่ทราบจริงๆ ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า เราเจอกันในการทำงานสภาร่วมกัน สส.บางคนก็อยู่มาตั้งแต่สมัยที่แล้วจนถึงสมัยนี้ ก็มีการพบปะพูดจากัน ส่วนในทางการเมือง เราก็เป็นนักการเมืองเหมือนกัน ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลต่างคนก็ต่างทำหน้าที่ แม้สมัยนี้อาจเป็นฝ่ายค้าน แต่สมัยหน้าก็อาจจะเป็นรัฐบาล ซึ่งก็ต้องทำงานร่วมกัน ตนเห็นว่า หลายคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานดีมาก

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเสนอแก้กฎหมายยุบพรรคหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ มองว่า ต้องฟังทุกฝ่ายก่อน เราก็ไม่อยากให้มี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องพูดถึง คือให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เรายังไม่อยากพูดว่าพรรคไหน จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้เห็นด้วย ตั้งแต่ตอนสมัยอยู่ไทยรักไทยเราไม่ได้เห็นด้วยกับการยุบพรรค แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นเกิดขึ้นแล้ว เราก็แก้ไขไม่ได้ ต้องรอฟัง

ส่วนหากเกิดกรณีพรรคก้าวไกลถูกยุบ ซึ่งทำให้ฝ่ายค้านมีจำนวนสมาชิกที่ทำงานในสภาลดลงจะส่งผลอย่างไรบ้าง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สัดส่วนกรรมาธิการก็ต้องเปลี่ยน แต่เรายังไม่อยากพูดถึง อยากให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปก่อน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็มีวิธีการแก้ไขอยู่แล้ว ที่ผ่านมาถ้าสัดส่วน สส.ต่อกรรมาธิการลดลง ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามนั้น เหตุการณ์ยังไม่ถึง เราจะพูดไปก่อนเข้าไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบจิตใจของหลายฝ่าย

เมื่อถามถึงกระแสข่าว ที่มี สส.ฝ่ายรัฐบาล พยายามจะดูด สส.ของพรรคก้าวไกลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนทำงานในสภายังไม่ทราบข่าว อาจจะมีคนกล่าวชวนแบบทีเล่นทีจริงก็เป็นเรื่องปกติ แต่คงไม่ได้ไปพูดว่าจะดึงคนนั้นคนนี้มาอยู่ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ไปดูดใครมา และไม่มีความคิดที่จะไปดูดใครด้วย

ต่อข้อถามว่าได้มีการคุยถึงเรื่องอยากได้ สส.มาเติมเสียงเพิ่มหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการคุยกัน ตนเชื่อว่าเสียงขนาดนี้เพียงพอแล้ว เราก็อยู่ได้สบาย ตั้งแต่ตนมาเป็นประธานวิปก็ยังไม่มีล่มสักครั้ง สมาชิกให้ความร่วมมือดี ก็ขอบคุณ สส.ทุกท่าน เป็นความร่วมมือของสภา เราไม่จำเป็นต้องหาเสียงมาให้มากไปกว่านี้ ปล่อยให้เขาอยู่ไป เราได้แต่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในสภา ทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามถึงกระแสข่าว จะดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ได้ยินมา แต่เมื่อได้ฟังจากนายกรัฐมนตรี ท่านก็บอกว่าเราไม่จำเป็นต้องไปดึงพรรคไหนมา วันนี้เรามั่นคง สามารถโหวตผ่านได้สบาย ไม่มีปัญหาเรื่องโควตา แค่นี้ก็พอแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีหากนายกรัฐมนตรีเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พรรคร่วมรัฐบาลอื่นจะดึง สส.ก้าวไกลมาร่วมโหวตนายกฯ หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่านายเศรษฐา จะปลอดภัย มั่นใจว่าสิ่งที่ท่านทำถูกต้องแล้ว ไม่มีอะไรเป็นข้อกังวล ทุกคนเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี มีแต่ให้กำลังใจท่านให้ทำงานอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่ากรณีที่หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ จะส่งผลต่อตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้มีพรรคไหนเสนอแล้วหรือยัง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สมมุติว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆ พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องมาประชุมเรื่องนี้กัน วันนี้ยังไม่มีใครบอกว่าต้องการโควตานี้ ยังไม่มีใครพูด แต่โดยมารยาทพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด มีอะไรก็ต้องปรึกษาหารือกันด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งเราก็ให้กำลังใจนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งก็ทำงานได้ดี

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรครวมไทยสร้างชาติทวงโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ว่างนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนทราบมาเหมือนกัน ได้ยินมาแบบนั้น แต่ยังไม่รู้รายละเอียด.