สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันพุธ ว่ารัฐบาลวอชิงตันยังคงเดินหน้ากระบวนการกลับมาเปิดสถานกงสุลประจำนครเยรูซาเลม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลปาเลสไตน์ ที่ถดถอยอย่างหนักในยุครัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเพื่อให้เป็นไปตามการให้คำมั่นกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ที่บลิงเคนเข้าพบ เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
นายยาอีร์ ลาพิด รมว.การต่างประเทศอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม บลิงเคนยังปฏิเสธกล่าวถึงช่วงเวลาที่ชัดเจน นัยว่าไม่ต่องการสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับอิสราเอล ด้านกระทรวงการต่างประเทศในกรุงเทลอาวีฟออกแถลงการณ์คัดค้าน การเดินหน้านโยบายดังกล่าวของสหรัฐ โดยอ้าง "การมีอำนาจอธิปไตยเหนืออาณาเขตทั้งหมด" ของนครเยรูซาเลม และเสถียรภาพของรัฐบาลอิสราเอล "จะถูกสั่นคลอนอย่างหนัก" หากรัฐบาลวอชิงตันกลับมาเปิดสำนักงานการทูตสำหรับปาเลสไตน์ในนครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ทั้งนี้ การให้ความเห็นของบลิงเคนเกิดขึ้นระหว่างการประชุมร่วมกับนายยาอีร์ ลาพิด รมว.การต่างประเทศอิสราเอล และชีค อับดุลเลาะห์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน รมว.การต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี "ข้อตกลงอับราฮัม" ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ระหว่างยูเออีกับอิสราเอล และบาห์เรนกับอิสราเอล ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ยืนยันการรักษาข้อตกลงฉบับนี้ ที่ยังคงสร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับปาเลสไตน์ แม้แสดงท่าทีต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย.

เครดิตภาพ : AP