สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ว่า ชาวไนจีเรียหลายพันคนเข้าร่วมการประท้วงนโยบายของรัฐบาล และค่าครองชีพที่พุ่งสูง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่บ้านเมืองเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี
แม้การชุมนุมค่อย ๆ คลี่คลายไปในหลายพื้นที่ของไนจีเรีย หลังเกิดการปะทะกับกองกำลังรักษาความปลอดภัย แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคน ยังคงออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในรัฐทางตอนเหนือของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น รัฐคาดูนา, รัฐคัตซินา และรัฐคาโน รวมถึงรัฐแพลโท ทางตอนกลางของประเทศ
ทั้งนี้ ภาคเหนือของไนจีเรีย มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม, ศาสนา, เศรษฐกิจ และสังคมที่แน่นแฟ้น กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคซาเฮล ซึ่งเกิดการรัฐประหารหลายครั้ง อีกทั้งบรรดาผู้นำรัฐบาลทหารในหลายประเทศ ต่างถอยห่างจากพันธมิตรชาติตะวันตก และหันเข้าหารัสเซียแทน
อย่างไรก็ตาม ธงชาติรัสเซียที่ปรากฏอยู่ในการชุมนุมที่ไนเจอร์, มาลี, บูร์กินาฟาโซ ตลอดจนไนจีเรีย ทำให้เกิดการตอบสนองอย่างรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ
Nigerian protesters arrested for waving Russian flag https://t.co/9J8Ubpcxe8
— BBC News (World) (@BBCWorld) August 6, 2024
ด้านหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงจากกองกำลังติดอาวุธ และตำรวจไนจีเรีย รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ แถลงการณ์สรุปร่วมกัน และกล่าวหาว่ามี “ผู้สนับสนุน” ที่พยายามบ่อนทำลายรัฐบาลไนจีเรีย โดยไม่ให้รายละเอียด หรือแสดงหลักฐานใด ๆ แต่ระบุว่าผู้สนับสนุนบางคน “อยู่นอกประเทศ”
ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำไนจีเรีย ปฏิเสธมีความเกี่ยวข้องกับการประท้วงดังกล่าว ในแถลงการณ์บนเว็บไซต์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับยืนยันว่า รัฐบาลมอสโก รวมถึงเจ้าหน้าที่รัสเซียทุกคน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเหล่านี้ และไม่มีการประสานงานกับกลุ่มผู้ชุมนุมใด ๆ ทั้งสิ้น.
เครดิตภาพ : AFP