เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ภญ.สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย กล่าวในการแถลงข่าวชี้แจงการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาล่าช้า ผ่านระบบออนไลน์ผ่านระบบ Microsoft Teams ว่า บริษัทได้มีการประสานอย่างใกล้ชิดกับทางบริษัทวัคซีนโมเดอร์นาทุก 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเข้าใจว่าการผลิตวัคซีนมีความซับซ้อน ทำให้เกิดความล่าช้า ดังนั้นจึงพยายามหาวัคซีนจากแหล่งผลิตใหม่ เดิมเป็นแหล่งผลิตจากอียู ตอนนี้ทางบริษัทได้ยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อปลายเดือน ก.ย. ขอนำเข้าจากแหล่งผลิตในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ล่าสุด ที่ได้รับแจ้งคือจะมีการส่งวัคซีนโมเดอร์นาให้กับประเทศไทยยังเป็นเดือน พ.ย. 2564 แต่ยังไม่ทราบวันที่ที่แน่นอน แต่วัคซีนจะทยอยเข้ามาสัปดาห์ละ 1-3 แสนโด๊ส จนครบ 1.9 ล้านโด๊ส ในไตรมาส 4 ของปี 2564 ส่วนที่เหลือ 6.8 ล้านโด๊ส จะส่งภายในไตรมาส 1 ของปี 2565

“การส่งมอบวัคซีนในเดือน พ.ย. มีความแม่นยำสูง ทางบริษัทจะทำให้เกิดการส่งมอบในเดือน พ.ย.นี้ให้ได้ ขอยืนยันตรงนี้” ภญ.สุนัยนา กล่าวและว่า เมื่อเข้ามาแล้วก็เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน    

ด้าน นพ.เฉลิม หาญพานิชย์ นายกสมาคม รพ.เอกชน กล่าวว่า ในการประชุมกรรมการสมาคม รพ.เอกชน กล่าวว่า ในเอกสารการจอง จะเห็นว่า สัญญาค่อนข้างยาวคือ เดือน ต.ค.2564-มี.ค. 2565 และมีการระบุชัดเจนว่าสามารถเลื่อนการใช้สิทธิหรือว่าโอนสิทธิได้ ข้อดีคือวัคซีนดังกล่าวสามารถฉีดในเด็ก 12-17 ปีได้ ดังนั้นสามารถโอนสิทธิให้กับบุตรหลานได้ และในวงการแพทย์ปี 2565 วงการแพทย์จะมีการฉีดกระตุ้นอยู่แล้ว ดังนั้นพูดตรงๆ คือไม่มีเงื่อนไขเรื่องการคืนเงิน

“เราหวังกับวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งประสิทธิผลต่างๆ ซึ่งหลายคนคาดหวังและไม่ยอมฉีดเข็มที่ 3 เพราะรอโมเดอร์นา แต่ส่วนตัวขอให้ไปฉีดเข็ม 3 ก่อน แล้วโมเดอร์นาให้เลื่อนออกไป เรากับทาง อภ. ตกในฐานะผู้ซื้อเหมือนกัน แต่ทาง รพ.เดือดร้อนเพราะมีคนเป็นล้านๆ คน” นพ.เฉลิม กล่าว

นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมร่วมกับสมาคม รพ.เอกชน ในการทำสัญญาซื้อวัคซีนโมเดอร์นา จากบริษัทซิลลิคฯ เป็นตัวแทนถูกต้องจากโมเดอร์นา โดยได้ลงนามมาตั้งแต่ ก.ค. ซึ่ง อภ.ก็ได้เร่งรัดทางบริษัทเรื่อยมา ซึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราคำนึงความคาดหวังของประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากโมเดอร์นา เป็นวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนสั่งซื้อจาก รพ.เอกชน ไม่ได้มาจากงบภาครัฐแต่อย่างใด ซึ่งทางเราได้ติดตามเร่งรัดเกือบทุกวัน เมื่อมีความคืบหน้าก็จะชี้แจงให้ทราบ แต่เท่าที่ผ่านมามีความคืบหน้าล่าช้า ทำให้ไม่สามารถอัพเดทข้อมูลได้ อย่างไรก็ตาม อภ.เป็นผู้ซื้อ จึงได้รับความเสียหาย เพราะจากความหวังว่าจะนำเข้า ต.ค. แต่กลับต้องล่าช้าเพราะเห็นว่ามีข้อติดขัด ทั้งนี้หากบริษัทซิลลิคฯ ไม่สามารถส่งได้ตามกรอบเวลาที่แจ้งล่าสุด ก็ต้องพิจารณาว่ามีอะไรผิดสัญญาหรือไม่ หากมีก็จะให้ทางฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อไป.