สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ว่า เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวถึงสถานการณ์ภายในประเทศ ที่กำลังวุ่นวายจากการประท้วงและจลาจลของกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาจัด ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าแม้สถานการณ์มีแนวโน้มสงบมากขึ้น แต่ฝ่ายความมั่นคง “เตรียมพร้อมระดับสูงสุด” เพื่อรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นอีก และยืนยันว่า ผู้กระทำผิดทุกคนต้องรับโทษตามกฎหมาย “โดยไม่มีข้อยกเว้น”
'This is not a law free zone'@Keir_Starmer said today's sentencings over offensive online content amid the riots is a reminder that if 'you're directly or remotely' involved 'you're culpable and you'll be put before the courts if you've broken the law'https://t.co/pAmPgiVaSt pic.twitter.com/eycVO9iekw
— ITV News Politics (@ITVNewsPolitics) August 9, 2024
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นความวุ่นวายทางสังคมครั้งเลวร้ายที่สุดของสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่เหตุจลาจลในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2554 ซึ่งชวนเหตุในเวลานั้น มาจากการที่ตำรวจวิสามัญชายผิวสี
ส่วนชนวนเหตุของการเกิดรุนแรงและความวุ่นวายครั้งล่าสุดในสหราชอาณาจักร มาจากเหตุวัยรุ่นชาวผิวสี วัย 17 ปี บุกใช้มีดไล่แทงเด็กภายในห้องเรียนเต้น ที่เมืองเซาธ์พอร์ต ทางตอนกลางของเกาะอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีเด็กหญิงเสียชีวิต 3 ราย
Thousands of anti-racism demonstrators took to the streets of towns and cities in England against anticipated far right protests.
— BBC Breakfast (@BBCBreakfast) August 8, 2024
Jessica Lane is in Sheffield for #BBCBreakfasthttps://t.co/mwKEljjbVZ pic.twitter.com/xkzobl81n5
แม้พนักงานสอบสวนยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าว “ไม่ใช่การก่อการร้าย” แต่การที่มีรายงานว่า มือมีดเป็นชาวมุสลิมและมีแนวคิดหัวรุนแรง จุดกระแสต่อต้านผู้อพยพลุกลามไปตามเมืองใหญ่หลายสิบแห่งของสหราชอาณาจักร จนสำนักงานตำรวจต้องเตรียมชุดปฏิบัติการพิเศษมากกว่า 6,000 นาย เพื่อควบคุมสถานการณ์
จนถึงตอนนี้ มีผู้ถูกจับกุมจากสถานการณ์รุนแรงรอบนี้แล้วมากกว่า 600 คน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ในจำนวนนี้มากกว่า 140 คนถูกดำเนินคดี ขณะที่นานาประเทศประกาศเตือนภัยพลเมืองของตัวเอง ในการเดินทางและใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักร.
เครดิตภาพ : AFP