เมื่อวันที่ 10 ส.ค. นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งปี 2570 ว่า พรรคประชาชนต้องการชนะเลือกตั้งเพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ว่า ตนฟังแล้วรู้สึกเฉยๆ วันนี้เขาก็ต้องออกมาร้องตะโกนเช่นนี้ เขามีสิทธิฝันได้ แต่ส่วนตัวมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ผ่านมา ถือเป็นจุดสูงสุดของอดีตพรรคก้าวไกล รวมถึงพรรคประชาชนแล้ว เพราะคะแนนที่ได้มาถือว่าเป็นคะแนนที่เกินคาดหมายของใครหลายคนที่ประเมินไว้ การเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อารมณ์ของสังคมของประชาชนในวันนั้น คนเบื่อกับรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร จึงอยากทดลองกับอะไรใหม่ ๆ พรรคก้าวไกลถึงได้คะแนนเป็นจำนวนมาก 

นายครูมานิตย์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การเลือกตั้งครั้งต่อไป เป็นการเมืองปกติแล้ว ประชาชนมีสิทธิมีเสียง มีนายกฯ พลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน และวันนี้ประชาชนก็เริ่มเห็นผลงานของรัฐบาล เมื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตออกมา จะกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาอย่างเป็นได้ชัด นอกจากประชาชนได้ประโยชน์ มันจะยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นใจฝีมือการแก้ปัญหาเศรษฐกิของพรรคเพื่อไทย แล้วเขาจะไว้วางใจเราต่อไป ตนขอบอกก่อนว่าหากจะเป็นแกนนำรัฐบาลได้ ต้องโชว์ฝีมือก่อน 

นายครูมานิตย์ กล่าวอีกว่า วันนี้ประชาชนไม่ได้ไว้วางใจอะไรง่าย ๆ เช่นพรรคการเมืองที่ไม่เคยแสดงฝีมือการบริหารมาก่อน และต้องยอมรับว่าพรรคประชาชนยังเป็นมือใหม่ทางการเมือง อาจมีกลุ่มคนที่ยอมรับ แต่ก็มีอีกส่วนที่ยังสงสัยในฝีมือการบริหารประเทศ อย่างน้อย ๆ ถ้าพรรคประชาชนจะประสบความสำเร็จ ต้องเข้าไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก่อน แล้วได้แสดงฝีมือการบริหารออกมาให้เห็น แต่ถ้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเลยนั้นเป็นเรื่องยาก อย่างการจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ผ่านมา สส.พรรคเพื่อไทย จำนวนมาก ได้พูดคุยกันว่าไม่เชื่อมั่นให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ เพราะไม่มั่นใจในการบริหาร หากจะเป็นแกนนำต้องแสดงฝีมือให้เห็นก่อน แล้วการเลือกตั้งหลังจากนั้นอาจประสบความสำเร็จก็เป็นได้ แต่ถ้าให้มาเป็นแกนนำเลย ตนไม่เชื่อว่าสภาจะให้ความเชื่อมั่น 

“ที่กล่าวมาไม่ได้รังเกียจ แต่ไม่เชื่อใจให้เป็นแกนนำ การบริหารประเทศมันต้องแสดงฝีมือให้เห็นก่อน อย่างเช่น บัวขาว บัญชาเมฆ กว่าจะมีชื่อเสียง กว่าจะเป็นที่ยอมรับ เขาขึ้นเวทีมวยเป็นร้อยครั้ง โชว์ฝีมือให้ได้เห็นจนเป็นที่ยอมรับ จนคนเชื่อมั่นว่าขึ้นชกเมื่อไหร่ ชนะเมื่อนั้น และเป็นการชกที่ดุดันด้วย เหมือนกันกับการเมืองก่อนจะเป็นแกนนำ ต้องได้แสดงฝีมือให้สังคมเชื่อมั่นก่อน” นายครูมานิตย์ กล่าว