เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “คิวพี-ชินดนัย แซ่ลิ้ม” อายุ 21 ปี นักแสดงซีรีส์วาย พร้อมด้วยบิดา ได้เดินทางมายัง สภ.พระประแดง หลังเดินทางเข้าให้ปากคำกับทางกรมเจ้าท่าสาขาสมุทรปราการตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวน และให้ปากคำเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ในฐานะตัวแทนผู้บังคับการและเป็นผู้ดูแลการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ นั่งเป็นประธานในที่ประชุม ท่ามกลางสื่อมวลชนหลายสำนักมาร่วมทำข่าว
คิวพี เปิดเผยว่า ตนเองอยากจะขอโทษกับญาติของผู้เสียชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตนเองไม่ได้มีเจตนาหรือความตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้นแบบนี้ และมีความตั้งใจที่จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต และพร้อมที่จะเยียวยากับญาติผู้เสียชีวิต ขอรับผิดชอบทุกอย่าง ในวันที่เกิดเหตุตนเองได้เข้ามาในพื้นที่ย่านพระประแดง และไม่ทราบว่ามีการเดินเรือข้ามฟาก ตนเองไม่ค่อยได้ขับเจ็ตสกีมาเล่นในพื้นที่พระประแดง ส่วนใหญ่จะขับในบึงปิด ซึ่งในคืนที่เกิดเหตุเจ็ตสกีชนเรือหางยาวข้ามฟากนั้นตนเองยอมรับว่ามองไม่เห็น
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นดังนี้ตนเองได้ขับเรือเจ็ตสกีมากับเพื่อนอีก 1 ลำ ซึ่งเขาแซงและนำผมไป แต่เขาสามารถหักหลบได้ทัน เมื่อมาถึงลำของตนเองจังหวะที่ระยะ 1 เมตรสุดท้าย ซึ่งทำให้มองไม่เห็นและไม่ทันแล้ว จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ส่วนก่อนเกิดเหตุตนเองไม่ได้กินเหล้าหรือเบียร์มา ส่วนภาพที่มีการถือรูปเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ซึ่งเป็นรูปเก่าที่เก็บไว้ถ่ายเล่นๆ ตนเองมองไม่เห็นแสงไฟบนเรือของคุณลุงประยูร ที่เสียชีวิต ส่วนแสงสว่างกลางแม่น้ำก็ไม่สามารถทำให้ตนเองมองเห็นเรือหางยาวข้ามฟากได้ในระยะไกล แต่เจ็ตสกีที่ตนเองขับวันนั้นมีไฟเป็นลักษณะ Daylight
ชาวเน็ตขุดต่อเจอรูป ‘คิวพี’ ถือกระป๋องนั่งเจ็ตสกีในวันที่ชนคนดับ 2 ราย
สาวแฉวีรกรรม ‘คิวพี’ ขับรถเบนซ์ชนซี่โครงร้าวไม่เคยเยียวยาจนต้องร้องศาล
หลังจากนี้ตนเองคิดว่าจะไม่ขับเจ็ตสกีอีกแล้ว ตั้งใจว่าจะเลิกขับ ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะไปร่วมพิธีงานศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมีความตั้งใจที่จะบวชเพื่อขออโหสิกรรมกับผู้เสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองยอมรับว่าเกิดจากความประมาท ตนเองอยากจะฝากถึงผู้ที่ขับเจ็ตสกีว่า อย่าขับในเวลากลางคืน สุดท้ายนี้ตนเองอยากจะขอโทษกับญาติผู้เสียชีวิต แต่ไม่รู้จะใช้คำขอโทษอย่างไรดี
ด้าน พ่อของคิวพี เปิดใจว่า ทั้งตนเอง และลูกชาย รวมไปถึงครอบครัว รู้สึกเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ รู้สึกสำนึกผิดในเรื่องที่เกิดขึ้น วันเกิดเหตุตนเองยอมรับว่ามาด้วยกัน แต่มาคนละลำกับน้องคิวพี คืนวันเกิดเหตุน้องออกมาก่อนกับเพื่อน ส่วนตัวเองหลังจากเช็กบิลเสร็จก็ตามออกมา มาถึงน้องก็ชนแล้ว ตอนชนตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ก็พยามขับเรือวนหาผู้บาดเจ็บ จนกระทั่งแน่ใจว่าไม่เจอ จึงช่วยลากเรือเข้ามาที่ท่าน้ำ
ในเรื่องของความรับผิดชอบตนเองในฐานะพ่อของน้อง ก็พร้อมที่จะรับผิดชอบและเยียวยาผู้ที่เสียหายอย่างเต็มที่ ส่วนตัวของน้องคิวพีเองก็รู้สึกเสียใจและสำนึกผิด สภาพจิตใจย่ำแย่ หลังจากเป็นข่าวออกไป ก็ทำให้มีผลกระทบต่างตามมาหลายด้าน ตนเองอยากขอโอกาสสังคม ให้อภัยทางครอบครัวของตนเอง โดยเฉพาะน้องคิวพี ซึ่งไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดอุบติเหตุในครั้งนี้ ตนเองในฐานะพ่อยอมรับผิดที่เป็นส่วนหนึ่งที่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดีจนเกิดความประมาทขึ้นในครั้งนี้
ส่วนทางครอบครัวหรือญาติผู้เสียชีวิตยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการเข้าให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ ก็ตั้งใจจะไปร่วมงานศพและพูดคุยกับทางครอบครัว โดยในวันนี้จะให้ทางอาของคิวพีได้ไปร่วมงานศพสมุทรสาครก่อน พร้อมเยียวยาเบื้องต้น ส่วนตนเองกับคิวพีตั้งใจจะไปที่ลพบุรี เพื่อพูดคุยและเยียวยาเช่นเดียวกัน
ขณะที่ พ.ต.อ.ประภาส เปิดเผยว่า วันนี้ทางคุณพ่อน้องคิวพี ตั้งใจจะไปร่วมพิธีงานศพ ของคุณลุงประยูร ที่สมุทรสาคร และ น.ส.ปริฉัตร ที่ลพบุรี แต่เนื่องด้วยติดภารกิจต้องสอบปากคำร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ คุณพ่อของน้องจึงมอบหมายให้คุณอา ไปร่วมงาน และเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต ที่สมุทรสาคร ตามสมควรในเบื้องต้น ในส่วนของลพบุรี ทางครอบครัว ของน้องก็จะไปเยียวยากับทางญาติผู้เสียชีวิตด้วยเช่นเดียวกันให้เต็มที่และเป็นที่น่าพอใจ ส่วนการสอบสวนก็จะดำเนินการต่อไปที่ สภ.พระประแดง พร้อมที่จะเร่งรัดการสอบสวนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.