เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่ตึก SC ASSET Public Company Limited ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ (ตึกชิน 3)  น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี  เดินทางถึงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสทักทายสื่อมวลชน ก่อนที่ภาคเอกชนจะขอเข้าพบนายกฯ เพื่อสะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจ และขอเสนอมาตรการแนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วนด้านต่างๆ โดยช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 10.00-11.00 น. เป็นสภาหอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย-จีน มีกำหนดขอเข้าพบ เวลา 11.00-12.00 น. สภาอุตสาหกรรมไทย และเวลา 13.00-14.00 น. สมาคมธนาคารไทย 

โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วย นายจุลพันธ์  อมรวิวัฒน์  นายเผ่าภูมิ  โรจนสกุล รมช.คลัง  รวมทั้ง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมพบปะในครั้งนี้ด้วย

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวทักทาย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมกล่าวว่า สวัสดีทุกท่านอีกครั้งทราบว่ามีประชุมที่ จ.ร้อยเอ็ด เลยต้อง Cancel Plan มาที่นี่แต่ต้องขอบคุณวันนี้ ความจริงอยากให้มาแชร์กันเพราะตอนนี้ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ทำได้แค่การเปิดพื้นที่และรับฟัง และอยากให้วันนี้เป็นวันที่ทุกท่านสามารถให้ความเห็นสามารถแนะนำอะไรที่อยากจะแชร์ ทางด้านของสภาหอการค้าไทยสามารถแชร์ได้เลย เรามีทีมงานมาทั้งหมดช่วยรับฟัง วันนี้จะได้แบ่งปันความคิดเห็นกันในด้านต่างๆ 

ด้านนายสนั่น กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการทั้ง 12 ท่านและผู้อำนวยการหอการค้าไทย ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี ขอให้ท่านนายกฯ บริหารประเทศอย่างราบรื่น และทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน ก็ต้องขอขอบคุณที่นายกฯ ได้ให้เกียรติสภาหอการค้าไทย เพราะการมาเข้าพบในวันนี้การนำเสนอยังไม่ถึงกับสมบูรณ์ คงจะมีอะไรที่เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็เสียดายที่เราติดอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด ไม่สามารถไปร่วมงานดินเนอร์ แสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้  แต่ก็ได้ติดตามวิสัยทัศน์ของท่านอดีตนายกฯ ทักษิณอย่างใกล้ชิด

นายสนั่น กล่าวอีกว่า สำหรับวันนี้หอการค้าไทยของเราเองอยากจะนำเสนอในการระดมความคิดจากเครือข่ายทั้งภาคเอกชนของเราทั่วประเทศภายใน 2 วันนี้มี 3 เรื่องเร่งด่วนเรื่องที่ 1.การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งในระยะสั้น กลางและระยะยาว เรื่องที่ 2.การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน  SME เพราะ 90% ของสมาชิกของเราเป็น SME ในจังหวัดต่างๆ เรื่องที่ 3.การวางยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน เพราะการพูดคุยกับชาวต่างประเทศ เขาอยากจะเห็นยุทธศาสตร์ของประเทศไทยไปในลักษณะอย่างไร ซึ่งตนขอนำเสนอเกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมั่นในประเทศและต่างประเทศ 5 เรื่องด้วยกัน 1. การกระจายงบประมาณด้วยการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 จัดทำงบประมาณปี 2568 ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดและให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งจ่ายงบประมาณที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ 2. กระตุ้นเศรษฐกิจไปยังประชาชน 3 กลุ่มโดยมุ่งไปยังกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้ทันต่อความต้องการของประชาชนกลุ่มที่ยังพอมีกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะคนละครึ่ง ช่วยเพิ่มกำลังซื้อและกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยการออกมาตรการดึงการจับจ่ายใช้สอยผ่านมาตรการภาษีอื่นๆ

‘ประธานหอการค้าไทย’เข้าพบ ‘นายกฯ’ เสนอ 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายสนั่น กล่าวต่อว่า 3. มาตรการช่วยเหลือและเยียวยาด้วยการลดค่าใช้จ่ายทั้งค่าไฟ ค่าน้ำมันและตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นพิจารณาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ตามแต่ละประเภทให้ชัดเจน และให้สถาบันการเงินผ่อนผันค่าปรับการจ่ายหนี้ล่าช้าเพื่อบรรเทาภาระของประชาชน รวมถึงการจัดสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการปรับปรุงเงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้าให้รวดเร็ว โดยทำเป็น Supply Chain Finacing  4.การกระจายอำนาจโดยออกมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนในเมืองรองส่งเสริมการใช้โลโก้คอนเทนต์และสานต่อโครงการยกระดับเมืองสู่เมืองหลัก โดยมีเป้าหมาย 10 จังหวัดทั่วประเทศ และ 5.ปรับปรุงระเบียบที่มีอยู่ให้เอื้อต่อการแข่งขัน.