จากกรณี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 67 ได้เกิดปรากฏการณ์พบคราบน้ำมันปริศนาจำนวนมหาศาล ลอยดาษดื่นเป็นระยะทางยาว 3-4 กิโลเมตร บริเวณหน้าอ่าวบางเสร่ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตลอดจนตามพื้นที่เกาะแก่งต่างๆ และในทะเล ก็ได้พบคราบน้ำมันลักษณะเดียวกัน กระจายตัวเป็นวงกว้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นสีดำเข้ม มีกลิ่นเหม็นฉุน และเป็นแผ่นฟิล์มบางลอยเหนือผิวน้ำ ซึ่งได้สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงได้ทำลายธรรมชาติในทะเล และทัศนียภาพชายหาด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุพบคราบน้ำมันปริศนา กองทัพเรือ โดย ศรชล.ภาค 1 ได้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินลาดตระเวนตรวจสอบหาคราบน้ำมัน บริเวณพื้นที่อ่าวสัตหีบ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างน้ำบริเวณชายหาดบางเสร่ ไปทำการตรวจสอบ โดยทางกองทัพเรือ จะรายงานผลเพื่อทราบในภายหลัง ส่วนน้ำมันที่พบสันนิษฐานว่า อาจเป็นน้ำมันเตา หรือน้ำมันเครื่องยนต์ ที่ถูกปล่อยออกมาจากเรือขนาดใหญ่
ในส่วนของพื้นที่อ่าวบางเสร่ และพื้นที่ตลอดแนวชายหาด ที่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันนั้น จากการตรวจสอบ ขณะนี้ไม่พบคราบน้ำมัน ดังที่ปรากฏก่อนหน้าเมื่อวานนี้ ส่งผลให้บริเวณพื้นที่อ่าวบางเสร่ มีสภาพน้ำทะเลใส ไม่มีกลิ่นฉุนของน้ำมัน และพื้นที่ตลอดแนวชายหาด ยังคงความเป็นหาดทรายขาว ไม่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันปริศนาแต่อย่างใด ซึ่งสันนิษฐานได้ว่า คราบน้ำมันดังกล่าว ได้สลายตัวหายไปในทะเลแล้ว หรืออาจถูกคลื่นลมพัดออกไปกลางทะเล อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลจากการตรวจสอบทางอากาศของกองทัพเรือ เพื่อชี้ชัดสรุปผลถึงผลกระทบจากคราบน้ำมันในครั้งนี้.