เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ศาลาประชาวาริน ต.วารินชําราบ อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมการบรรเทาภัยและการฟื้นฟูผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยทันทีที่เดินทางมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ ทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับพร้อมกล่าวว่า “รักกันไว้เถิด”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พบปะกับผู้ประสบอุทกภัย โดยกล่าวว่าวันนี้ฝากหัวใจนายกฯ ด้วย ห่วงทุกคนวันนี้ก็ห่วงกรุงเทพฯ โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตนทราบดีวันนี้ทุกคนมีความเดือดร้อนในช่วงน้ำท่วมอุทกภัย ซึ่งประเทศไทยประสบปัญหานี้มานาน น้ำท่วมฝนแล้งรัฐบาลพยายามทำอย่างยิ่งยวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าในพื้นที่ที่ท่วมมาก ท่วมน้อยลง ส่วนพื้นที่ที่ท่วมประจำต้องดูแลโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำต้องลดความเสียหายให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันทราบดีถึงปัญหาของชาวนา ข้าว มันสำปะหลังทั้งหมด ซึ่งเราเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ต้องปรับความคิดใหม่เรียนรู้ไปด้วยกัน

“ขอเวลาให้ผมระยะหนึ่ง จะพยายามทำสำเร็จให้ได้มากที่สุด วันนี้มายืนยันกับทุกคนว่าตราบใดที่นายกฯ ยืนอยู่ตรงนี้ จะทำให้ดีที่สุดเพื่อลูกหลานของเรา ปัญหาทุกปัญหานายกฯ คนเดียวแก้ไม่ได้ทั้งหมด ต้องรับฟังทุกคนตามระบอบประชาธิปไตย รวมถึงการทำประชาพิจารณ์ต่างๆ ขอให้อุทกภัยครั้งนี้คลี่คลายไปโดยเร็วที่สุดรัฐบาลจะดูแลให้ดีที่สุด”

เมื่อถึงช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามประชาชนว่า พร้อมจะไปกับนายกฯ หรือไม่ ซึ่งประชาชนตะโกนตอบว่า “พร้อม” นายกฯ จึงกล่าวว่า “ไปด้วยกัน นายกฯ รัฐบาล ส.ส. และข้าราชการทั้งหมดเป็นกระบวนการบริหารราชการแผ่นดินทั้งสิ้น ทุกคนต้องร่วมมือกัน การทำงานเราจะทำแบบเก่าๆ ไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเรา ซึ่งอาจยังไม่ทั่วทุกครัวเรือนทุกพื้นที่ แต่มันต้องเกิดผลให้เป็นรูปธรรม วันนี้เห็นใจบางอย่างติดกติกากฎหมายหลายอย่าง ต้นทุนการผลิตสูง ปุ๋ยก็แพง นายกฯ ต้องรื้อใหม่ทั้งหมด เพราะติดกฎหมายและกฎระเบียบหลายอย่างที่เราไปแทรกแซงไม่ได้ เพราะเป็นกติกาแต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด”

พล.อ.ประยุทธ์ ฝากทิ้งท้ายด้วยว่า ขอให้ทุกคนดูแลกันให้ดีที่สุดพ่อแม่ลูกครอบครัวคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง พ่อ แม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย นั่นคือวัฒนธรรมอัตลักษณ์ของคนไทย ซึ่งทุกคนมาประเทศไทยก็ทึ่งกับตรงนี้เราต้องให้ความสำคัญตรงนี้ให้ดีที่สุด นอกจากนี้ขอให้ติดตามข่าวที่เป็นประโยชน์เป็นสาระและเป็นข้อเท็จจริง เราเดือดร้อนพออยู่แล้วอย่าไปแบกรับปัญหาอื่นๆ เข้ามาเลย ปัญหานั้นนายกฯ รับเองจะได้แก้ปัญหาทุกคนให้ได้ทุกเรื่อง ขอฝากความรักความห่วงใยฝากหัวใจไว้กับชาวอุบลราชธานีด้วย

โดยเมื่อมาถึงช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถามชาวบ้านว่ารับฝากหัวใจนายกฯ หรือไม่ ซึ่งชาวบ้านตอบว่า “รับ” นายกฯ จึงกล่าวต่อว่า “ฝากหัวใจไว้กับทุกคน หัวใจของพวกเราคือประชาชนสำคัญที่สุด ตราบใดที่ประชาชนยังหน้าตาไม่ผ่องใส ยังมีรายได้ไม่เพียงพอ ยังมีหนี้สินและทุกข์ นายกฯ รู้และรับทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการต้องแก้ให้ได้เร็วที่สุด แต่ทุกอย่างต้องเริ่มต้นไปด้วยกันร่วมมือกับรัฐบาลไม่เช่นนั้นก็ขัดแย้งกันไปมาทำอะไรไม่ได้”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินพบปะชาวบ้านพร้อมมอบถุงยังชีพและกล่าวตอนหนึ่งด้วยว่า “อีสานคนสู้ คนอีสานยอมแพ้ที่ไหน” พร้อมกล่าวว่า “ถ้าพวกสู้ นายกฯ ก็สู้ สู้ไปกับนายกฯ นายกฯ สู้คนเดียวไม่ได้”

ทั้งนี้ในช่วง พล.อ.ประยุทธ์ เดินพบปะประชาชนได้มีการเปิดเพลง บ้านเกิดเมืองนอน พล.อ.ประยุทธ์ จึงถามชาวบ้านว่า รู้จักเพลงนี้ไหม บ้านเกิดเมืองนอนของเราอยู่ที่ไหน ประเทศไทย ประเทศไทยเป็นของใคร เป็นของคนไทยทุกคน คนไทยทุกคนต้องรักกันและสามัคคีกัน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เราถอยหลังไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ประเทศไทยอยู่แค่นี้แล้ว อย่าแบ่งแยกกัน เราเหมือนครอบครัว คนไทยต้องเป็นครอบครัวเดียวกันและเดินหน้าไปด้วยกัน นายกฯ จะทำให้ดีที่สุดให้กับพวกเรา

จากนั้นภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ทั้งนี้ระหว่างที่รถนายกฯ เคลื่อนขบวนผ่าน เกิดเหตุวุ่นวายเล็กน้อย โดยมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำนวน 2 คน ถือป้ายพร้อมตะโกนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าห้ามปรามและไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด.