นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ในส่วนของพืชหลักส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลดีกับเกษตรกร
โดยข้าวหอมมะลิราคา 15,900 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ราคา 15,650 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุมธานี 15,300 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 11,300 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 13,900 บาทต่อตัน และมันสำปะหลัง ราคา 2.95 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (ความชื้น 14.5%) ราคาอยู่ที่ 11.43 บาทต่อ กก. ปาล์มน้ำมันราคาอยู่ที่ 6.35 บาทต่อ กก.
สำหรับกลุ่มเนื้อสัตว์ราคาทรงตัว อาทิ หมูเนื้อแดงสัปดาห์นี้ เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 137.44 บาท ไก่เนื้อน่องติดสะโพก เฉลี่ย กก.ละ 84.13 บาท เนื้อน่อง เฉลี่ย กก.ละ 84.63 บาท เนื้อสะโพกเฉลี่ย กก.ละ 88.56 บาท และเนื้ออกเฉลี่ย กก.ละ 85.31 บาท ส่วนไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยฟองละ 4.23 บาท ใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในส่วนสัตว์น้ำ ราคาทรงตัว โดยปลานิล กก.ละ 73.50 บาท ปลาทับทิม 107 บาท ปลาดุก 76.30 บาท กุ้งขาว (70 ตัว/กก.) กก.ละ 187 บาท
ผักส่วนใหญ่ราคาปรับตัวลดลง โดย ถั่วฝักยาว กก.ละ 43.50 บาท กะหล่ำปลี กก.ละ 35.10 บาท กวางตุ้ง กก.ละ 34.30 บาท ผักกาดขาว กก.ละ 40.50 บาท ผักบุ้งจีน กก.ละ 35.50 บาท ต้นหอม กก.ละ 106.50 บาท ผักชี กก.ละ 120 บาท พริกขี้หนูจินดา 78.20 บาท ส่วนผักที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากสภาพอากาศมีฝนตกชุกในแหล่งผลิต ได้แก่ ผักคะน้า กก.ละ 42.60 บาท มะนาว (เบอร์ 1-2) อยู่ที่ 3.75 บาท
สำหรับผลไม้ ราคาตลาดส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยผลไม้ภาคตะวันออก ทุเรียน มังคุด เงาะโรงเรียน และลองกอง ออกสู่ตลาดหมดแล้ว ส่วนผลไม้ภาคใต้ ขณะนี้กำลังออกสู่ตลาด โดยทุเรียนภาคใต้ ออกแล้ว 70% ทุเรียนเกรดส่งออกหรือเกรด AB กก.ละ 147.50 บาท จากราคา ปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 120 บาท เกรดส่งออกรองหรือเกรด C กก.ละ 107.50 บาท จากราคาปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 105 บาท และเกรด D กก.ละ 98 บาท จากราคาปี 66 ที่เฉลี่ย กก.ละ 96 บาท มังคุดใต้ ออกแล้ว 45% โดยเกรดส่งออก กก.ละ 61.10 บาท เกรดรอง กก.ละ 30 บาท เกรดคละ กก.ละ 25 บาท เกรดตกเกรด กก.ละ 22 บาท ซึ่งถือว่าราคาเฉลี่ยดีกว่าปีก่อนหน้า
ส่วนผลไม้ภาคเหนือ ที่กำลังออกสู่ตลาด โดยสับปะรดภูแล ออกแล้ว 83% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 12.50 บาท จากปี 66 ที่เฉลี่ย 8.98 ลำไย ออกแล้ว 78% ลำไยเกรดช่อส่งออก AA กก.ละ 39 บาท จากปี 66 ที่เฉลี่ย 32.50 บาท เกรดช่อส่งออก A กก.ละ 34.50 บาท จากปี 66 ที่เฉลี่ย 27.50 บาท เกรดรูดร่วง AA กก.ละ 35 บาท จากปี 66 ที่เฉลี่ย 23.50 บาท เกรดรูดร่วง A กก.ละ 19 บาท จากปี 66 ที่เฉลี่ย 15.50 บาท และเกรดรูดร่วง B กก.ละ 12.75 บาท จากปี 66 ที่เฉลี่ย 7.50 บาท
อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวถึงการจัดงาน ‘VILLAGE TO TOWN 2024 By DIT’ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19-25 สิงหาคม 2567 ณ บริเวณ ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า ที่ได้นำสินค้าเด่นจากภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยที่มีรูปแบบโดดเด่น ทันสมัย ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ภายใต้โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายและตลาดต้องชมกว่า 35 แห่ง มาจัดแสดงและจำหน่ายให้กับชาวกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวว่าประชาชนได้ให้ความสนใจเข้าเลือกซื้อสินค้าจากชุมชน โดยเฉพาะกระเป๋าและผ้าไทยที่ได้รับความนิยม เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีการพัฒนารูปแบบให้ทันสมัยตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าชุมชนที่หลากหลายและน่าสนใจ
อาทิ กระเป๋าหัตถกรรมจากผักตบชวา กระเป๋าจากใยกล้วย กระเป๋าจากใยตาลโตนดผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าไหม อาหารทะเลแปรรูป ข้าวยำ ขนมจีน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หมูแผ่นและอีกมากมาย พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการจำหน่ายผลไม้ไทย อาทิ ทุเรียน มังคุด ลำไย จาก Thai fruit festival 2024 by MOC มุมผักและกุ้ง สะอาด ปลอดภัย เพิ่มความหลากหลายให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้า โดยผ่านมา 4 วัน สร้างรายได้ให้กับทั้ง 47 หมู่บ้าน 11 ตลาดต้องชมไปแล้ว 5.2 ล้านบาท และมั่นใจว่าเมื่อจบงานในวันที่ 25 ส.ค. นี้ จะสร้างรายได้ให้กับหมู่บ้านทำมาค้าขายและตลาดต้องชม ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมอุดหนุนสินค้าชุมชน อาหารสด ผลไม้ เพื่อให้กำลังใจกับพี่น้องวิสาหกิจชุมชนและชาวสวนในงาน ซึ่งจะมีถึงวันอาทิตย์ที่ 25 ส.ค. นี้