เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ที่ สภ.เมือง จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายธนากร (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาว จ.ลพบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 254/2567 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 โดยกล่าวหา “…วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป..” พร้อมของกลาง จยย.ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ สีดำแดง ที่ใช้ก่อเกตุ โทรศัพท์มือถือซัมซุง สีชมพู 1 เครื่อง หมวกกันน็อกสีดำ 1 ใบ โดยจับกุมได้ที่ร้านขายผักตลาดพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี
โดย พ.ต.ท.บรรจง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเช้าวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ได้รับแจ้งจาก นางปราณี (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ชาว จ.อุดรธานี ว่าขณะกำลังเดินถือตะกร้าใส่อาหารไปถวายพระในวัดดงสระพังทอง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณเพียง 100 เมตร มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ขี่จยย.สวมหมวกกันน็อกออกมาจากเต็นท์ภายในวัด มาจอดทำทีสอบถามทาง แต่พอตนเผลอก็ฉวยเอากระเป๋าเงินในตะกร้า ภายในมีเงินสด 2,000 บาท ที่เตรียมไว้ซื้อน้ำดื่มถวายพระ ภายในกระเป๋ายังมีโทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน และบัตร ATM ติดไปด้วย
พ.ต.ท.บรรจง กล่าวอีกว่า ตำรวจสืบสวนเส้นทางจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่จนพบว่า คนร้ายขี่ จยย.หนีไปย่านวัดบ้านนาดอน แต่ก็ไม่มีเบาะแสอื่น ๆ อีก กระทั่งมีพระสงฆ์ที่วัดมาแจ้งว่า สุนัขที่วัดเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง คาบเอากระเป๋ามาให้ ภายในมีบัตรประชาชนของ นางปราณี พร้อมบัตร ATM เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบ ๆ วัดและในหมู่บ้าน ทำให้พบว่า คนร้ายจอดรถเติมเงินโทรศัพท์ที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน และเห็นใบหน้าคนร้ายชัดเจน นั่นก็คือ นายธนากร ลูกจ้างร้านขายผัก ตลาดชื่อดังในเมืองอุดรธานี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายจับ ขณะกำลังทำงานที่แผงขายผักในตลาด
จากการสอบสวน นายธนากร ให้การรับสารภาพว่า ทำงานรับจ้างที่ตลาดได้ค่าแรงวันที่ 100-300 บาท แล้วแต่วันสินค้ามาก สินค้าน้อย ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย จึงไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในวัดดงสระพังทอง เพราะคิดว่ามีคนมาทำบุญจำนวนมาก เงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายประจำวัน เติมน้ำมัน และซื้อของขวัญวันเกิดย้อนหลังให้ลูกสาววัย 5 ขวบ
ด้าน นางเจน (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ชาวอุดรธานี ภรรยานายธนากร เล่าว่า ตนอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายธนากรมา 5 ปี มีลูกสาวอายุ 4 ขวบ ทั้งตนและสามีต่างทำงานในตลาด เพื่อหาเงินมาดูแลลูกน้อย ไม่รู้ว่าสามีไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในวัดมาก่อน รู้สึกตกใจและเสียใจมาก พยายามถามสามีแล้วแต่เขาไม่ตอบ ส่วนที่อ้างว่าเอาเงินไปซื้อตุ๊กตาให้ลูกเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลัง ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่เห็นตุ๊กตาตามที่กล่าวอ้าง เป็นลูกผู้ชายต้องยอมรับผิด ต่อไปนี้ตนจะเลี้ยงลูกคนเดียว พ้นโทษมาแล้วหวังว่าจะคิดได้.
ขณะที่บริเวณวัดดงสระพังทอง กลุ่ม อสม.บ้านหนองใส 2 ได้มาช่วยกันทำความสะอาดวัด และกำจัดลูกน้ำยุงลาย มีการจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนางสุริยา เหลือหลาย อายุ 64 ปี อสม. เล่าว่า วันเกิดเหตุฝนตก ตนอยู่บ้าน วันนั้นเป็นวันพระ จะมีคนมาทำบุญที่วัดเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว มีคนเข้าออกเยอะ เมื่อรู้ข่าวก็ตกใจมาก เพราะเรื่องมันเกิดในวัด คนร้ายไม่น่าทำแบบนี้ ส่วนตัวต้องระวังตัวเองให้มากขึ้น ไม่ควรเอากระเป๋าสตางค์ไว้ในตะกร้าแบบนี้อีก