แม้ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งบัลลังก์ฝ่ายบริหาร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ด้วยไฟท์บังคับ โดยการมีพ่อแม่อุ้มสม เป็นฐานบัลลังก์สร้างความแน่นหนาเป็นปึกแผ่น แล้วล่าสุด ได้จัดงานครบรอบวันคล้ายวันเกิด ปีที่ 38 อย่างยิ่งใหญ่ ที่มีบรรดา รัฐมนตรี สส. และนักการเมือง เข้ามาร่วมอวยพรอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ เมื่อได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ก็ยังสวมบทสายมู สักการะศาลหลักเมือง พร้อมกับเติมน้ำมันตะเกียง เพื่อต่ออายุ พร้อมกับถือฤกษ์ มงคล ใส่เสื้อสีฟ้าเพื่อที่จะเสริมดวงด้านการทำงานอีกด้วย
ขณะที่ คุณพ่อทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ขึ้นเวทีเฉิดฉายแสดงวิสัยทัศน์บนเวทีใหญ่เป็นครั้งแรก ตั้งแต่กลับมาที่ประเทศไทยในงาน “Vision For Thailand เพื่อ กางแผนพัฒนาประเทศ อย่างยิ่งใหญ่ ออกสู่สายตาประชาชน โดยเฉพาะ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศชัดว่า จะแจกจ่ายให้กลุ่มเปราะบาง 13.5 ล้านคน และคนพิการ 1 ล้านคน รวม 14.5 ล้านคนก่อน โดยจะให้คนละ 10,000 บาท ทันทีในเดือน ก.ย.
หากสังเกตให้ดีภายในงาน จะเห็นว่า ด้วยบารมีของอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างนายทักษิณ เมื่อบอกว่าจะมีการโชว์ Vision บรรดานักการเมืองแนวหน้า นักธุรกิจชั้นนำ เจ้าสัวหมื่นล้าน ตบเท้ากันเข้ามาเพื่อรับฟัง กันพรึบพรับ จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่าการขึ้นโชว์วิสัยทัศน์ของนายทักษิณในครั้งนี้ เปรียบเสมือนครั้งที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์ รวมถึงนโยบายต่างๆ จนทำให้เกิดคำถามว่า สรุปแล้ว ใครกันแน่ ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง
เห็นได้ชัดว่า ออร่าของ นายทักษิณ เจ้าของบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่มีแสงส่องประกายเจิดจ้าเปรียบเสมือนพระอาทิตย์ 1 ดวง ที่ออกมาโชว์พาว เพื่อสกัดเสี้ยนหนามทางการเมือง ไม่ว่าจะปิดป่า และทำให้พรรคการเมืองน้ำดีอย่างพรรคประชาธิปัตย์แตกออกเป็น 2 เสี่ยง ไม่หนำซ้ำยังทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ถึงขั้นน้ำตาตก ที่ สส. ทั้ง 6 คนในพรรค เทคะแนนเสียงเลือก น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี
ต้องยอมรับว่า ในโลกใบนี้ พระอาทิตย์มีได้เพียงแค่ดวงเดียวเท่านั้น เมื่อคุณพ่อทักษิณ โชว์แสงเจิดจ้าขนาดนี้ จะเหลือที่ยืนให้กับลูกสาวได้เฉิดฉาย ส่องประกาย เป็นพระอาทิตย์ดวงที่ 2 คงจะไม่ได้ ดังนั้น คงจะต้องมีการจัดที่วางให้เหมาะเจาะ ปูทางเพื่อที่จะให้ลูกสาวเดินบนพรมแดง เพื่อให้สมกับการที่จะขึ้นเป็นพระอาทิตย์ดวงใหม่ที่แท้จริง เพื่อที่จะนำพาประเทศไปเฉิดฉายและสร้างความเชื่อมั่นบนเวทีโลก เพื่อโกยรายได้เข้าประเทศ พร้อมทั้งสร้างความอยู่ดีกินดี มีเกียรติมีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆกัน
งานนี้คงไม่ใช่แค่นายทักษิณเท่านั้นที่จะช่วยพยุงลูกสาวให้เป็นพระอาทิตย์ดวงใหม่ ที่เจิดจรัส เพียงอย่างเดียว แต่ตัวของ น.ส.แพทองธาร ก็ต้องมุ่งเดินหน้าทำงาน ให้มีผลงานออกมา ให้สมกับเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ได้ ไม่ใช่แค่จะอยู่ใต้เงาชื่อ “ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี” ซึ่งนี่ถือว่า เป็นงานหนักที่ “นายกฯอิ๊งค์” จะพิสูจน์ตัวเอง ให้สมกับเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชน ให้สมกับที่เสียงในสภาไว้ใจให้นั่งอยู่บนบัลลังก์นี้ และให้เหมาะสม ที่จะเป็นพระอาทิตย์ดวงใหม่ที่ส่องแสง ประกาย เจิดจรัส ด้วยตัวเอง.