เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ชุติกาญจน์ อายุ 29 ปี ร้องขอความเป็นธรรมให้ นายนัฐพล อายุ 28 ปี สามี มีอาชีพช่างซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญ หลังถูกหลอกให้ออกมาซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญ ภายในซอยมาบยายเลีย 34 หมู่ 7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนถูกชายไทย 3 คน ดักรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ตำรวจให้ข้อมูลกับทางญาติผู้ตายว่า ผู้ตายพยายามก่อเหตุงัดตู้หยอดเหรียญ ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ จึงช่วยกันตามจับแล้วถูกกระชากตกจากรถผู้ตายเสียชีวิต ขณะที่ญาติลงพื้นที่หาหลักฐานกล้องวงจรปิด ปรากฏภาพกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดักซุ่มคล้ายมีการวางแผนกันมาก่อน ด้านภรรยากลัวคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุภายในซอย มาบยายเลีย 34 บริเวณจุดตู้น้ำหยอดเหรียญ พบร่องรอยคราบเลือดบนพื้นถนนไม่ต่ำกว่า 10 จุด โดยลักษณะรอยหยดเลือดคล้ายกับ ผู้ตายพยายามวิ่งหนีไปรอบๆบริเวณ คาดว่าเป็นการวิ่งวนไปวนมา ก่อนวิ่งหนีตายไปหมดสติบริเวณหน้าปากซอย ห่างจากจุดตู้น้ำประมาณ 200 เมตร
ขณะเดียวกัน น.ส.ชุติกาญจน์ ภรรยาผู้ตาย เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังตามหาโทรศัพท์มือถือของสามี ซึ่งตรวจสอบ GPS ตำแหน่งครั้งสุดท้าย ระบุว่า ยังอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งพยายามตามหากันอยู่ เนื่องจากถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ เพราะในโทรศัพท์มีเบอร์คนที่ติดต่อมาให้ออกไปซ่อมเครื่องตู้น้ำคนสุดท้าย เป็นสายผู้หญิงที่หลอกให้สามีออกไปก่อนถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนเรื่องสามี ถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยนั้น ที่ผ่านมาตนกับสามีพยายามต่อสู้เรื่องนี้มาตลอด เพราะถ้าหากสามีทำจริงก็ขอให้นำหลักฐานไปแจ้งความ ไม่ใช่นำภาพขณะที่กำลังทำงานซ่อมตู้น้ำ ส่งมาข่มขู่สามีตลอดเวลา ช่วง 2 อาทิตย์ก่อนเกิดเหตุ
ภรรยาของผู้ตายยังเล่าอีกว่า สามีเป็นเสาหลัก ของครอบครัว มีลูกน้อย 2 คน และมีอาชีพเป็นช่างซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญมาหลายปี ช่วงหลัง สามีอยากจะแยกตัวออกมาเป็นช่างอิสระ และหาซื้ออะไหล่ไว้คอยซ่อมให้กับลูกค้าโดยตรง ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตุนี้เป็นปมเหตุที่ทำให้ไปขัดผลประโยชน์กับกลุ่มช่างที่ทำงาน ในลักษณะเดียวกันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามตนเองก็อยากจะดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมด รวมถึงนางนกต่อที่โทรศัพท์หลอกให้สามี ออกมาถูกทำร้าย และเชื่อว่าเหตุการณ์นี้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี
เพื่อนผู้ตาย วัย 28 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่า คืนเกิดเหตุ ผู้ตายไม่ได้ถูกกระชากตกจากรถ และไม่ได้ก่อเหตุงัดตู้ขโมยเหรียญตามที่ถูกกล่าวหา เพราะก่อนหน้านี้ตนเพิ่งขับรถไปส่งผู้ตายซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญ ให้กับลูกค้าที่ย่านซอยหนองเกตุน้อย หลังจากซ่อมเสร็จ ก็ได้รับโทรศัพท์อีกสายจากลูกค้า ซึ่งผู้ตายเปิดลำโพงคุย ทำให้ตนได้ยินการสนทนาตลอดเวลา โดยเสียงที่คุยเป็นเสียงผู้หญิง บอกว่าให้ผู้ตายออกมาซ่อมตู้น้ำให้อ้างว่าหยอดเหรียญไม่ได้ ซึ่งระหว่างเดินทางจะมีโทรศัพท์โทรเข้ามาตลอดเวลาเพื่อเร่งให้ผู้ตายไปให้เร็วที่สุด
พอมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถให้ผู้ตายลงไปซ่อมตู้น้ำหยอดเหรียญ ส่วนตนเข้าไปกลับรถออกมาจอดรอ แต่จอดรถได้ไม่ถึง 1 นาที ขณะตนกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ปรากฏว่าก็มีชาย 3 คน โผล่มาจากโครงการก่อสร้างหมู่บ้าน แล้ววิ่งไปทำร้ายผู้ตาย ส่วนหนึ่งในผู้ก่อเหตุ พยายามยืนขวางหน้ารถตอนนั้นยอมรับว่ากลัวมากจึงตัดสินใจขับรถหนี ระหว่างขับหนียังถูกหนึ่งในผู้ก่อเหตุ ใช้พลั่วฟาดกระจกแตก กระทั่งผ่านไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็มาทราบข่าวว่าผู้ตายถูกทำร้ายบาดเจ็บ และเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวตรวจสอบภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดคืนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 19.45 น. พบว่าผู้ตายพยายามวิ่งหนีออกไปทางด้านหน้าปากซอยมาบยายเลีย 34 โดยมีผู้ก่อเหตุสวมใส่เสื้อสีเขียว วิ่งถือพลั่วขุดดินแบบเหล็กตามหลังไปติดๆ จากนั้นเห็นรถกระบะสีดำ ของเพื่อนของผู้ตาย ขับออกจากซอยไปอย่างรวดเร็ว ก่อนมีผู้ชาย คนที่ 2 และ 3 วิ่งตามกันออกไปหน้าปากซอย จนเวลาผ่านไป 5 นาที ช่วงเวลาประมาณ 19.50 น. พบว่าผู้ต้องสงสัย 3 คน คาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ เดินย้อนกลับเข้ามาในซอย โดยมีการพูดคุยกัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ส่วนความคืบหน้าของคดี ตำรวจ สภ.หนองปรือ เรียกภรรยาผู้ตาย รวมถึง พยานในคืนเกิดเหตุมาทำการสอบปากคำ และ อยู่ในระหว่างการประสานไปทางโรงพยาบาลบางละมุง ขอผลชันสูตร มาเป็นหลักฐาน ก่อนจะเรียกทุกฝ่ายมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป