เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปฏิบัติหน้าที่แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในหนังสือของพรรคพลังประชารัฐ เลขที่ พปชร.138/2567 ลงวันที่ 26 ส.ค. 2567 ถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
โดยข้อความในหนังสือ ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร. เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาเรื่องเสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 (1) (ฉ) และ ข้อ 92 และเห็นชอบ ตามที่พรรค พปชร. ได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่น ไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 67 สส. ของพรรค พปชร. ลงมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 หัวหน้าพรรค พปชร. ได้เสนอรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคไปให้นายกรัฐมนตรี ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 ท่าน ดังนี้ 1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รมช.สาธารณสุข และ 4.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ หากรายชื่อบุคคลที่เสนอไปข้างต้น ปรากฏว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลใหม่และเสนอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทดแทน
หนังสือดังกล่าว ระบุต่อว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้แถลงข่าวร่วมกับพรรค พปชร. และพรรคอื่นที่ร่วมรัฐบาลทุกพรรค ประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าทุกพรรคจะร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และมีข้อตกลงให้มีสัดส่วนรัฐมนตรีของแต่พรรคตามจำนวนเดิมในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งพรรค พปชร. ลงมติเห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำนวน 39 เสียง เว้นแต่หัวหน้าพรรค พปชร. ที่ติดภารกิจสำคัญอันไม่อาจหลีกเลี่ยงจึงไม่สามารถมาร่วมออกเสียงได้ และต่อมาพรรค พปชร. ได้ดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองและข้อบังคับพรรคฯ จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อมีมติรับรอง การเสนอชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค พปชร. และขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปตามข้อตกลงร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยให้ สลค. เป็นผู้ติดต่อไปตามรายชื่อบุคคลที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ เสนอเป็นรัฐมนตรี ให้กรอกแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรี ตรวจสอบประวัติ และลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรีกันครบถ้วนทุกพรรค แต่ปรากฏว่าเมื่อพรรค พปชร. สอบถามไปยัง พล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทราบว่า สลค. ไม่ได้ติดต่อเพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้
“ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี พรรค พปชร. จึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อกราบเรียนนายกฯ ในฐานะที่มีอำนาจในการสั่งการ สลค. ได้โปรดมีบัญชาให้ สลค. ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท เพื่อที่พรรค พปชร. จะได้ดำเนินการให้มีการกรอกข้อมูลในแบบฯ และนำส่ง สลค. โดยเร็วต่อไป” หนังสือ ระบุ.