เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่สมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี ถนนนาเกลือ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หอการค้าจังหวัดปัตตานี และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี เข้าพูดคุยพบปะสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า การพูดคุยมีข้อสรุป 5 ประเด็นด้วยกัน คือ 1.การจ่ายเงินชดเชยซื้อเรือประมงพาณิชย์ ที่ดำเนินการค้างคาหลายปี เกี่ยวข้องกับการนำมาตรการการทำประมงผิดกฎหมาย มาบังคับใช้ในประเทศ มีเรือที่จังหวัดปัตตานีที่จำเป็นเข้าไปจ่ายเงินเยียวยาทั้งสิ้น 423 ลำ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบ่งออกเป็นส่วนแรก จำนวน 101 ลำ จะเร่งรัดดำเนินการจ่ายเงินชดเชยให้ก่อน มีวงเงินขอดำเนินการ 245 ล้านบาท

และจะมีการเร่งรัดนำเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ในวันที่ 28 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ตนมอบหมายให้นายนิพนธ์ ซึ่งเป็นกรรมการให้การสนับสนุน 2.การแก้ไขพระราชกำหนดการประมงปี 58 ซึ่งผู้ประกอบอาชีพประมงปัตตานีและชายแดนใต้ หรือทั่วประเทศ ต้องการเห็นการเร่งรัดดำเนินการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้โดยเร็ว โดยพรรคประชาธิปัตย์มีการยื่นแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่การพิจารณากฎหมายใหม่ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญมาตรา 77 รับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า 3.ต้องการให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพาณิชย์ หลังจากขายเรือหรือจำเป็นต้องเลิกอาชีพประมงพาณิชย์ไปแล้วให้สามารถมีทางเลือกในการประกอบอาชีพอื่น ซึ่งมีอยู่จำนวน 12 รายการ ที่ต้องการไปทำอาชีพเกษตรกรรมด้านอื่น แต่จำเป็นต้องมีที่ดินทำกิน ซึ่งเรื่องนี้จะให้ ศอ.บต.ช่วยทำต้นเรื่องไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อช่วยพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป 4.ผู้ค้าสัตว์น้ำหรือสินค้าประมงที่แผงค้าของตลาดองค์การสะพานปลา ตัวเมืองปัตตานี ร้องเรียนว่ามีการปรับเปลี่ยนสิทธิการให้เช่าและปรับเปลี่ยนขนาดของแผงค้าให้เล็กลง ทำให้ผู้เช่าขาดพื้นที่ที่จะเก็บรักษาสินค้าประมงที่จะต้องดองน้ำแข็งไว้ขายในวันต่อไป ตนได้ขอให้ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา ลงมาแก้ปัญหาเรื่องนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานและผลเป็นอย่างไรให้รายงานให้ตนทราบต่อไป

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า 5.ปัจจุบันมีแรงงานต่างด้าวซึ่งมีสิทธิ แค่เข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่กลับมาทำธุรกิจและเป็นเจ้าของธุรกิจเองเท่ากับเป็นการแย่งอาชีพคนไทยและผู้ประกอบการในท้องถิ่น ซึ่งผิดพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 100,00-1,000,000 บาท และถ้ายังไม่เลิกการกระทำมีค่าปรับอีกวันละ 10,000- 50,000 บาท ตนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการประชุม พบว่ามีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดรวมถึงผู้ค้าที่ทำการประมงในพื้นที่ ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรองนายกฯ ให้เร่งแก้ปัญหากรณีต่างด้าวเข้ามายึดพื้นที่ และเป็นเจ้าของกิจการ แย่งอาชีพทำมาหากิน ซึ่งนายนิพนธ์ ได้เข้ามาเจรจา ก่อนที่นายจุรินทร์ จะเข้าไปรับฟังปัญหาและรับข้อเสนอของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อพิจารณาแก้ไขตามความเหมาะสมต่อไป.