เมื่อวันที่ 30 ส.ค. พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุมตัวนายศิววิบูลย์ชัย อายุ 52 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 680/2567 ลง 29 ส.ค. 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นนั้น” พร้อมด้วยของกลาง 1.ย่าม 2 ใบ 2.รัดประคดเอว 1 ชิ้น 3.สบง 1 ผืน 4.จีวร 2 ผืน 5.บาตร 1 ใบ 6.ร่ม 2 คัน 7.อังสะ 1 ผืน 8.ผ้ากราบ 1 ผืน 9.สังฆาฏิ 1 ผืน 10.รถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน สีขาว ทะเบียน 2 ขอ 3597 กรุงเทพมหานคร 11.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO จำนวน 1 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณชายทุ่ง ท้ายหมู่บ้านนาแพง หมู่ 5 ต.นาแพง อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 67 ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านทางโซเซียลมีเดีย เกี่ยวกับกรณีที่มีพลเมืองดี มักพบเห็นผู้ชายแต่งกายเป็นพระสงฆ์ ขับรถยนต์เก๋งมาจอดบริเวณใต้สะพานกลับรถ สถานีรถไฟรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในเวลารุ่งเช้า จากนั้นในช่วงสายจะกลับมาที่รถ เพื่อเปลี่ยนการแต่งกายเป็นชุดฆราวาส จากนั้นได้ขับรถคันดังกล่าวออกไป กก.2 บก.ป. ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้ดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พบว่าชายคนที่ปรากฏตามข่าว คือ นายศิววิบูลย์ชัย ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่น kicks สีขาว ซึ่งเป็นของภรรยาตามกฎหมายของนายศิววิบูลย์ชัย โดยขับออกมาจากบ้านพักบริเวณ ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในช่วงเช้ามืดของวันดังกล่าว จากนั้นได้นำมาจอดบริเวณดังกล่าว กระทั่งมีพลเมืองดีพบเห็นและถูกถ่ายคลิปวิดีโอจนกระทั่งปรากฏเป็นข่าวข้างต้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับนายศิววิบูลย์ชัย ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 680/2567 ลง 29 ส.ค.2567 ในความผิดฐาน “แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสวงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นนั้น”
กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำกำลังเข้าทำการจับกุม นายศิววิบูลย์ชัย ได้บริเวณชายทุ่ง ท้ายหมู่บ้านนาแพง หมู่ 5 ต.นาแพง อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดไว้ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เอ๊ะยังไงจริงหรือปลอม! พระขับเก๋งมาบิณฑบาตทุกวัน บางวันเปลี่ยนชุดบนรถ…
จากการสืบสวนและซักถามปากคำชั้นจับกุม นายศิววิบูลย์ชัย ให้การรับสารภาพว่า ตนเคยบวชเป็นพระ แต่ได้ลาสิกขาเป็นฆราวาสมานานแล้ว หลังจากนั้นได้มาอยู่กับภรรยา ที่บ้านพักข้างต้น ซึ่งตนแต่งกายเป็นพระสงฆ์ ขับรถออกตระเวนรับบิณฑบาตจำนวนหลายครั้ง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี กระทั่งถูกพลเมืองดีถ่ายคลิปวิดีโอและปรากฏเป็นข่าวข้างต้น
