เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่วังนาคินทร์ คําชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วยนายสุริยนต์ ดอนสมจิตร นายอำเภอบ้านดุง และคณะกรรมการบริหารคำชะโนด นำผู้สื่อข่าวร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีสื่อมวลชนหลายสำนักและประชาชนเผยแพร่ข่าว น้ำท่วมเกาะคำชะโนด จนไม่สามารถเข้าสักการะเจ้าปู่ศรีสุทโธ และเจ้าย่าศรีปทุมา ได้ตามสภาวะปกติ พร้อมทั้งได้โพสต์ข้อความและแชร์ออกไปจำนวนมาก ข้อความว่า “ประกาศปิดคำชะโนดเป็นการชั่วคราว จำนวน 60 วัน เนื่องจากน้ำท่วมเกาะ” ตลอดจนนำภาพเหตุการณ์เก่า ซึ่งเป็นภาพน้ำท่วมคำชะโนด เมื่อปี พ.ศ. 2561 นำมาประกอบข่าวและข้อความเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล
โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งประจักษ์ว่า เกาะคำชะโนด ไม่มีสถานการณ์น้ำท่วมแต่อย่างใด ประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางมาสักการะเจ้าปู่ศรีสุทโธ และเจ้าย่าศรีปทุมา ณ วังนาคินทร์ คําชะโนด ได้ตามปกติ โดยวันที่ 26 ส.ค.2567 มีผู้เดินทางมา 1,528 คน ,วันที่ 27 ส.ค. 1,538 คน วันที่ 28 ส.ค. 1,338 คน วันที่ 29 ส.ค. 1,963 คน และวันที่ 30 ส.ค. 1,531 คน จึงขอให้สื่อมวลชนและประชาชนดังกล่าว ที่ลงข่าวข้อความอันเป็นเท็จ ดำเนินการแก้ไข ข้อเท็จจริงให้ถูกต้องกับความเป็นจริงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวได้ส่งผลกระทบให้ประชาชนทั่วไปเดินทางมาคำชะโนด เพื่อสักการะเจ้าปู่ศรีสุทโธ และเจ้าย่าศรีปทุมาน้อยลง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้านค้า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบายศรีพญานาค และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย เชิงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตลอดจนเป็นกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 14 บัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ” (2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน