เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ต.ค.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ตรวจเยี่ยมชมการผลิตและแปรรูปทุเรียน ที่บริษัทม่านกู่หวางฟู๊ด จำกัด อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ผลไม้ไทยยังมีอนาคตมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ ตัวเลขการส่งออกผลไม้ดีขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะทุเรียนช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ม.ค.-ส.ค.ปีนี้ ส่งออกไปแล้ว 89,000 ล้านบาท เป็นบวกถึง76% ที่นี่เป็นตัวอย่างของโรงงานแปรรูปทุเรียนทำทุเรียนแช่แข็ง เพื่อส่งออกไปขายในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน รวมทั้งทุเรียนแปรรูป เราอยากเห็นโรงงานแบบนี้เกิดขึ้นมากๆ เพราะจะมีส่วนช่วยในการรับซื้อทุเรียนของเกษตรกรได้มากขึ้น ราคารับซื้อในช่วงเวลานี้ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก กิโลกรัมละ 80-185 บาท ใกล้เคียงกับทุเรียนภาคตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา เพราะเฉลี่ยทุเรียนเกรดส่งออกกิโลกรัมละประมาณ 200 บาท
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า หากปลอดจากโควิด-19 แล้วทุกอย่างจะไปได้ดีขึ้น เพราะจะช่วยให้สามารถรับซื้อทุเรียนได้มากขึ้น ส่งออกได้มากขึ้น จะเกิดการจ้างงานมากขึ้น ที่นี่ในช่วงปัจจุบันสามารถจ้างงานได้เกือบ 1,000 คน หากมีโรงงานแบบนี้เกิดขึ้นหลายโรงงานจะช่วยเรื่องการว่างงาน เท่ากับในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะช่วยแก้ปัญหาทั้งเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคงในเวลาเดียวกันได้ด้วย สำหรับมาตรการส่งเสริมผลไม้เชิงรุก 17+1 ของกระทรวงพาณิชย์ ที่เราเตรียมไว้สำหรับฤดูผลผลิตผลไม้ปีหน้า ซึ่งเริ่มต้นปี 65 แต่เราเดินหน้ามาตรการเบื้องต้นไม่รอปัญหาเกิด เรากำหนดไว้ 17+1 มาตรการ
โดย 17 มาตรการแรกใช้เช่นเดียวกับภาคตะวันออก ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ทำงานกับเอกชนใกล้ชิด ทั้งภาคการผลิตการแปรรูป อุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงการตลาดทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก และทำงานเชิงรุกทุกฝ่ายมั่นใจ เพราะสิ่งที่เราทำมา 2 ปี ให้เห็นว่านโยบายหลายอย่างของกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าจริงอย่างเป็นรูปธรรม.