สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ว่าเอนีล ตัดสินใจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับค่าไฟฟ้าเพิ่มเติม เนื่องจากระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำลดลง ในช่วงฤดูแล้งของบราซิล
แม้การผลิตพลังงานลมและแสงอาทิตย์ของบราซิล จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่แหล่งพลังงานในประเทศมากกว่าครึ่งหนึ่งยังคงมาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
เอนีลใช้ระบบกำหนดราคาสีเขียว, สีเหลือง, สีแดงระดับ 1 และ สีแดงระดับ 2 ซึ่ง “สีเขียว” หมายถึงไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ขณะที่ตั้งแต่ “สีเหลือง” เป็นต้นไป จะมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในบราซิลเกิดขึ้น หลังบริษัทออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาตัดสินใจที่จะเปิดใช้งานระดับ “สีแดง 2” ซึ่งหมายความว่า ชาวบราซิลจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 7.88 เรียลบราซิล (ราว 48 บาท) ต่อการใช้ไฟ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือน ส.ค. 2564 ที่บราซิลเผชิญกับภัยแล้งครั้งใหญ่จนต้องนำอัตราเรียกเก็บค่าไฟฟ้า “ระดับสีแดง 2” มาใช้
เอนีลกล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหลักของประเทศในช่วงเดือน ก.ย. นี้ จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณร้อยละ 50 วิกฤติการณ์ดังกล่าวบีบบังคับให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเพิ่มการใช้โรงไฟฟ้าเทอร์โมอิเล็กทริก ซึ่งมีราคาแพงกว่า สวนทางกับเมื่อ ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากผู้ใช้งาน.
เครดิตภาพ : AFP