สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ว่า ประธานาธิบดีโวโลโดเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงความคืบหน้า หลังกองทัพรัสเซียโจมตีสถาบันการสื่อสารทหาร และโรงพยาบาลในเมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างน้อย 51 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 271 คน และยังมีผู้สูญหาย “อีกจำนวนหนึ่ง”
อนึ่ง เมืองโพลตาวาตั้งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปทางตะวันออกราว 300 กิโลเมตร และมีประชากรอาศัยอยู่ราว 300,000 คน ตามสถิติช่วงก่อนเกิดสงคราม
BREAKING:
— Visegrád 24 (@visegrad24) September 3, 2024
Russia launches its deadliest missile strike against Ukraine in many months.
At least 41 people were killed in Poltava when 2 ballistic missile struck an educational institution & a hospital.
At least 180 people are wounded and many are still missing under the rubble pic.twitter.com/vpDHrUD5ZM
ด้านสหรัฐ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ต่างออกมาประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุนองเลือดที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนปะทุ ขณะเดียวกัน เซเลนสกีสั่งให้มีการสอบสวนเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้อย่างละเอียด หลังมีรายงานบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับ “ความประมาทและความชะล่าใจ” ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยังคงจัดงานกลางแจ้ง แม้มีคำเตือนว่า ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากรัสเซีย
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นจากกระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า การเปิดสัญญาณเตือนภัย “ช้าเกินไป” จึงไม่ทันกับการเดินทางถึงเป้าหมายของขีปนาวุธ.
เครดิตภาพ : AFP