เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงมีการระบายอยู่ที่ 1,498 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ปริมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ได้รับผลกระทบจำนวน 7 อำเภอ 71 ตำบล 343 หมู่บ้าน 10,376 ครัวเรือน สถานที่ราชการ 3 แห่ง วัด 6 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง ถูกน้ำท่วม

ขณะนี้ได้มีการเตรียมการที่จะระบายน้ำเข้าทุ่งนา หลังวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งหากมีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ให้ชาวนาเก็บเกี่ยวนาข้าวให้แล้วเสร็จตามข้อตกลง

จากการลงพื้นที่สำรวจตามทุ่งนาต่างๆ พบว่า ทุ่งนาผักไห่ มีเกษตรกรที่ปลูกข้าวกว่า 2,000 ไร่ ในพื้นที่มีการเก็บเกี่ยวตามที่มีข้อตกลงกันไว้แล้ว ก่อนที่จะมีการระบายน้ำเข้าทุ่ง หลัง 15 ก.ย. นี้

นายสมศักดิ์ ปราพันธ์ อายุ 55 ปี ชาวนาปลูกข้าวในทุ่งผักไห่ จำนวน 7 ไร่ เปิดเผยว่า วันนี้ได้จ้างรถเกี่ยวมาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนที่จะถึงวันที่ 15 ก.ย. นี้ คาดว่านาข้าวที่เป็นทุ่งรับน้ำ น่าจะเก็บเกี่ยวข้าวกันได้ทัน ตามระยะเวลาที่ตกลงไว้ เพราะรถรับจ้างเก็บเกี่ยวเยอะ ได้ข้าว 100 วันพอดี ถ้าไม่รีบเก็บตอนนี้จะเสียหายมาก โดยเมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องติดต่อกัน ทำให้เสียเวลายืดเวลาออกมาอีก มาวันนี้ยังไงก็เก็บเกี่ยวทัน ตามข้อตกลงที่จะมีการระบายน้ำเข้าทุ่งผักไห่แห่งนี้

ทั้งนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา มีทุ่งรับน้ำ 7 ทุ่ง ได้แก่ ทุ่งป่าโมก ทุ่งผักไห่ ทุ่งบางบาล ทุ่งบ้านแพน ทุ่งเจ้าเจ็ด ทุ่งบางกุ่ม และทุ่งบางกุ้ง จำนวน 400,000 ไร่ มีข้าวเกี่ยวไปแล้ว ประมาณ 250,000 ไร่.