เรียกได้ว่ากลายเป็นประเด็นที่ทำเอาสังคมไทยถกเถียง แบ่งเป็นสองฝ่ายเลยก็ว่าได้ เมื่อช่างแต่งหน้ารายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อช่วงรับปริญญาว่า “บัณฑิต หยุดเอาเรฟ ต้าเหนิง มาแต่งรับปริญญา ขอร้อง เราต้องเช็กเบ้าและข้อห้ามนิดหนึ่งลูก แนะนำเอาสวยปกติที่เรารอดคะ”
ภายหลังจากโพสต์กลายเป็นไวรัล ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยฝั่งที่เห็นด้วยก็มองว่า ช่างแต่งหน้าคือบุคคลที่สร้างศิลปะบนใบหน้าให้ออกมามีความสวยงาม ไม่ใช่หมอศัลย์ ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วย มองว่า ช่างเลือกใช้คำพูดที่ดีกว่านี้ได้ ไม่จำเป็นต้องลดทอนหรือทำลายความมั่นใจของผู้อื่น หากเก่งและมีฝีมือจริง ควรรังสรรค์ปรับลุคที่เป็นเรฟให้เข้ากับลูกค้าดีกว่ามาเสียเวลาโพสต์…
ความเห็นอาทิ
– ฝีมือไม่ถึงแต่โทษเบ้าลูกค้า เอาเรฟยื่นให้ช่างแต่งหน้าหมายถึงเอาลุคแบบนี้จ่ะ ถ้าจะเอาเบ้าแบบต้าเหนิงเขาคงไปยื่นให้หมอแล้ว
– บางทีคนให้เรฟไม่ได้อยากแต่งออกมาหน้าเหมือนต้าเหนิง แต่อยากได้เมคอัพลุคเหมือนต้าเหนิงค่ะ ถ้าเป็นช่างแต่งหน้าแล้วยังแยกความต้องการลูกค้าไม่ออกก็ลาออกไปทำอย่างอื่น
– เอาดี ไม่เคยเข้าใจคนที่เขียนอะไรแบบนี้เลย ทุกคนรู้แหละว่าตัวเองไม่ใช่ต้าเหนิง แต่ทุกคนก็คงอยากที่จะดูดีและสวยที่สุดในวันสำคัญของตัวเอง ชีวิตมันเป็นอะไรนักต้องมาเขียนแคปชั่นแง่ลบงง
– ทานโทษนะคะลูกค้า ช่างแต่งหน้าไม่ใช่หมอศัลยกรรมเนอะ บางทีคุณลูกค้าต้องเข้าใจด้วย
– ถ้าเป็นช่างแต่งหน้าก็ต้องแนะนำสิว่าอะไรทำตามได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ได้ควรปรับเป็นยังไงที่ดีกว่า แต่ยังมีสไตล์ที่เขาอยากได้ ไม่งั้นจะเสียเงินจ้างช่างแต่งหน้าทำไม การทำเป็นอาชีพหมายความว่ามี skills มากกว่าคนปกติ และ 1 ในงานของคุณคือสร้างความมั่นใจและความสวยให้คนอื่น ไม่ใช่ทำลายความมั่นใจ…