เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย พร้อมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประกอบการ และประชาชนผู้พักอาศัยในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
โดยในระหว่างการตรวจติดตามสถานการณ์ของนายสุทธิพงษ์ และคณะ ได้มีประชาชนที่ยังคงพักอาศัยอยู่บริเวณชั้นสูงของบ้านเรือน ตะโกนขอรับการสนับสนุนอาหารกล่อง ซึ่งนายสุทธิพงษ์ได้ตะโกนตอบกลับ พร้อมทั้งแจ้งให้นายอำเภอและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้ให้เจ้าหน้าที่นำข้าวกล่องและน้ำดื่มไปมอบให้รับประทานเพียงพอตลอดทั้งวัน
จากนั้น นายสุทธิพงษ์ และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยมีพี่น้องประชาชนพักอาศัยกว่า 300 คน พร้อมทั้งได้ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และเจ้าหน้าที่ ตลอดจนอาสาสมัครผู้มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่หลายคนก็เป็นผู้ประสบภัย เนื่องจากบ้านเรือนที่พักอาศัยก็ถูกน้ำท่วมไม่สามารถเข้าอยู่ได้ แต่ด้วยภาระหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงมุ่งมั่นตั้งใจมาช่วยปฏิบัติงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน เพราะประชาชนต้องมาก่อน
นายสุทธิพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่ายว่า ขอขอบคุณบริเวณสถานที่ของวัด เป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณพี่น้องอาสาสมัคร มูลนิธิ สมาคม จากทั่วทุกสารทิศ ที่ทุกฝ่ายมาช่วยกันอย่างเต็มกำลัง รวมถึงกองทัพ ที่ได้ประชุมวางแผนในการที่จะทำให้ศูนย์ช่วยเหลือในสถานการณ์อุทกภัยอำเภอแม่สาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็อาสาในการประสานระดมสรรพกำลังยุทโธปกรณ์ของทหาร เครื่องจักรกลหนัก เฮลิคอปเตอร์ และกำลังพลมาช่วยอย่างเต็มที่
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า เรื่องสำคัญที่เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว คือ เราต้องมาช่วยกันในการคิดวางระบบป้องกันปัญหาอุทกภัยในบริเวณพื้นที่อำเภอแม่สายให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดย 1.ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย ทุกคนเห็นปัญหาตรงกันว่า ในด้านโครงสร้าง เนื่องจากเราเป็นพื้นที่ที่อยู่คู่ขนานกับประเทศเพื่อนบ้าน ลำน้ำที่ไหลเป็นเส้นแบ่งแดนของทั้งสองฝั่งมีลักษณะเป็นคอขวด และมีลักษณะการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นอาคารพาณิชย์ที่สร้างติดพื้นดิน บวกกับการขยายตัวของชุมชน จึงทำให้มีบางส่วนเป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งมีทางกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศ หารือหาแนวทางร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านควบคู่ไปด้วย 2.การทำแก้มลิงในลักษณะอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง บริเวณอำเภอเทิง ที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำหงาวและลำน้ำงาว แต่ในช่วงเวลานั้น ยังมีเจ้าของที่ดินบางส่วนยังเห็นไม่ตรงกัน จึงทำให้ในฤดูฝนน้ำท่วมรุนแรง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอเทิงจะลงไปทำประชาคมเพื่อขอความสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ และรายงานไปยังส่วนกลางเพื่อพิจารณา เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่กรมชลประทานเคยศึกษาแล้ว แต่ล่าช้ามาเป็นเวลา 10 ปี จึงต้องทำให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือเป็นไปในทางเดียวกัน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า 3.การช่วยเหลือชุมชนที่ขยายตัว ออกมามาก ๆ ทั้งที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งจากการสังเกตพบว่า บริเวณสะพาน ท.6 ที่เป็นทางไหลผ่านของลำน้ำกกในเขตชุมชนเมือง ยังมีการสร้างบ้านกันใหม่จำนวนมาก ส่งผลให้พื้นที่เก่าแก่ที่เป็นชุมชนริมน้ำมีโอกาสน้ำท่วมทุกปีและเอ่อล้นไปท่วมบ้านเรือนประชาชนด้วย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายจะร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จะช่วยกันสำรวจเพื่อนำไปสู่การทำข้อเสนอให้ทางรัฐบาลพิจารณาจัดสร้างกำแพงพนังกั้นน้ำที่สูงขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ เนื่องจากในขณะนี้สถานการณ์น้ำในแม่น้ำกกพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์จึงสั่งการให้ตัดระบบไฟฟ้าภายในศาลากลางจังหวัดเพื่อความปลอดภัยของสถานที่ราชการ พร้อมทั้งสั่งการให้ส่วนราชการต่างๆ ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามเวรรักษาสถานที่ราชการ โดยหน่วยให้บริการประชาชน เช่น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ยังคงให้บริการตามปกติ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ปฏิบัติงานบัญชาการเหตุการณ์ และปฏิบัติราชการตามหน้าที่ราชการอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย