เมื่อวันที่ 11 ก.ย. พ.ต.ท.พัชร์ธนพล รัชตาธารากาญจน์ สว.สอบสวน สภ.คลองห้า รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกเฉี่ยวชนกันแล้วพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่เกิดเหตุถนนวงแหวนรอบนอกธัญบุรี-วังน้อย หน้าอู่ซ่อมรถยนต์ของทางราชการ ม.3 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุมีฝนตกพรำพบรถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนหัวพ่วง 82-6567 ปทุมธานี หางพ่วง 82-6568 ปทุมธานี ชนติดอยู่กับโกดังชั้นเดียวปลูกสร้างแบบโครงเหล็กหลังคาเมทัลชีต ชั้นลอยทำเป็นห้องนอนได้รับความเสียหายพังทั้งหลัง ภายในตัวรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนายสาทร อายุ 40 ปี เป็นผู้ขับขี่รถพ่วงมีบาดแผลที่ขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล บนผิวทางห่างประมาณ 20 เมตร พบรถเทรลเลอร์ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียนหัวลาก 72-7611 สมุทรปราการ หางพ่วงทะเบียน 74-3585 สมุทรปราการ ได้รับความเสียหาย ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถบรรทุกพ่วงอีกคันยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 72-3182 สระบุรี หางห่วงทะเบียน 72-3672สระบุรี จอดอยู่โดยที่ส่วนท้ายของหางพ่วงมีเศษกรอบกระจกมองข้างรถบรรทุกติดคาอยู่
นายสาทร คนขับรถพ่วง กล่าวว่า ตนเองมาจากสระบุรีเพื่อไปธัญบุรีโดยบรรทุกหินมาเต็มคัน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถพ่วงที่วิ่งมาทางเดียวกันได้แซงซ้ายแต่ด้านหน้ามีรถจอดอยู่คนขับจึงโยกรถออกทำให้ส่วนลูกพ่วงไปเกี่ยวกับกระจกข้างของรถตนเองทำให้รถเสียการควบคุม ข้ามเลนไปเฉี่ยวชนกับรถเทรลเลอร์และพุ่งชนบ้านเรือนประชาชน
ด้านนายณัฐพงษ์ อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและลูกรวม 3 คนอยู่ภายในบ้าน หลังกินข้าวเสร็จตนเองได้เดินเข้าไปที่ห้องพัก ส่วนลูกชายอีกคนกินข้าว อีกคนอาบน้ำ จากนั้นเกิดเสียงยางระเบิดดังสนั่นตนเองคิดว่ารถคว่ำก่อนที่รถพ่วงจะพุ่งเข้ามาชนบ้านของตนจนเสาหักกระเด็นโชคดีที่รถหยุดก่อนที่จะถึงตนเองทำให้บุคคลในบ้านทุกคนปลอดภัย ตนเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ ที่ตนบูชารูปหล่อมาตั้งแต่ปี 2537 ไว้ภายในบ้านช่วยปกปักรักษาช่วยให้ครอบครัวปลอดภัย
พ.ต.ท.พัชร์ธนพล รัชตาธารากาญจน์ สว.สอบสวน สภ.คลองห้า เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุสอบปากคำพยานบุคคลและประสานรถยกขนาดใหญ่มาทำการเคลื่อนย้ายรถออกนอกเส้นทางเพื่อนำไปเก็บของกลางที่สภ.คลองห้า และจะได้สอบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป