นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จ.สมุทรสงครามได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ร่วมสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามแผนแม่บทระยะที่ 5 ปีที่ 6 เมื่อวันที่ 1 ต.ค.59 ถึงวันที่ 30 ก.ย.64 และเพื่อสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม จึงจัดโครงการอนุรักษ์และขยายพันธุ์พริกบางช้างขึ้น
โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์พริกบางช้างที่ได้รับรองพันธุ์แท้ DNA 100% โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเพาะพันธุ์โดยศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 9 จ.สุพรรณบุรี 5,500 ต้น มาแจกให้ผู้สนใจลงทะเบียนรับต้นกล้าพริกบางช้างไปปลูกเองคนละไม่เกิน 10 ต้น ระหว่างวันที่ 19-30 ก.ย.67 ที่สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ในวันเวลาราชการ ทั้งนี้เพื่อขยายพันธุ์พริกบางช้างให้คงอยู่ในพื้นถิ่นดั้งเดิม เป็นทรัพยากรอันทรงคุณค่าประจำชาติสืบไป
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า พริกบางช้าง เป็นพืชผักโบราณเฉพาะถิ่นอยู่ในกลุ่มพริกชี้ฟ้า รับรองโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของ จ.สมุทรสงคราม เมื่อปี 2559 มีต้นกำเนิดที่ จ.สมุทรสงครามและมีหลักฐานเชื่อได้ว่าพริกบางช้างปรากฏตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง สมัยนั้น จ.สมุทรสงครามถูกเรียกกันว่า “แขวงบางช้าง” มีตลาดค้าขายเรียกว่า “ตลาดบางช้าง” มีสินค้าขึ้นชื่อหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือพริกบางช้าง เป็นพืชชนิดหนึ่งที่นำไปประกอบเป็นเครื่องแกงในพระบรมมหาราชวัง ส่วนการปลูกพริกบางช้างสมัยนั้นนิยมปลูกแบบยกร่องหรือที่เรียกว่า “สวนเตียน”
จนมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เนื่องจากเเขวงบางช้าง เป็นชุมชนเล็กๆ ขึ้นตรงกับแขวงเมืองราชบุรี แต่สภาพพื้นที่ยังทำสวนผลไม้เป็นหลักได้แก่ สวนมะพร้าวและสวนผัก พริกบางช้างนิยมใช้เป็นส่วนผสมในตำรับอาหารชาววังโดยเฉพาะสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เป็นพริกที่มีความนิยมเข้าประกอบเป็นเครื่องแกงสูตรโบราณมีการระบุใช้พริกบางช้างเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากเมื่อนำไปประกอบอาหารจะให้สีสด รสชาติไม่เผ็ดเกินไป เป็นลักษณะที่สำคัญของอาหารชาววัง แต่ระยะหลังมีพริกพันธุ์เศรษฐกิจอื่นเข้ามาแทนที่ ทำให้พริกบางช้างหายไปนานนับ 10 ปีแล้ว
พริกบางช้างมีลักษณะเป็นพริกสด โคนผลใหญ่ปลายเรียว เนื้อหนา ไส้ใหญ่ เมล็ดน้อย มีกลิ่นเฉพาะตัว ผิวเรียบมัน ผลอ่อนสีเขียวเข้ม ผลแก่สีแดงจัด รสชาติไม่เผ็ดมาก พริกแห้งจะมีลักษณะผิวสีแดงเข้มมันเงา ต้นค่อนข้างเตี้ย ใบหนาใหญ่ สีเขียวอ่อน ปลูกในพื้นที่ อ.อัมพวา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม และ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศเหมาะสมต่อการปลูกคือเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำร่วมกันคือ แม่น้ำแม่กลอง มีดินเหนียวปนทราย เจริญเติบโตได้ดีในชุดดินธนบุรี ชุดดินสมุทรสงคราม และชุดดินดำเนินสะดวกเพราะเป็นดินเหนียวปนทรายที่เกิดจากตะกอนน้ำทะเลและน้ำกร่อยมาทับถมอยู่บนที่ราบน้ำทะเลขึ้นถึงในอดีต ลักษณะโคนผลใหญ่ ปลายเรียว ผิวเรียบมัน ผลอ่อนสีเขียวเข้ม ผลแก่สีแดงจัด รสชาติไม่เผ็ดจนเกินไป
การปลูกและดูแลพริกบางช้างนั้น ต้องพิถีพิถันเนื่องจากเป็นพืชที่อ่อนแอต่อโรคง่าย ดังนั้นเมล็ดพันธุ์และกิ่งพันธุ์ต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกที่มีคุณภาพ การเตรียมดิน ควรปรับสภาพและตากดินไว้ 5-7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อราและเมื่อปลูกได้ 60 วัน จะแทงช่อดอก แต่ดอกชุดแรกควรเด็ดทิ้ง เพื่อไม่ให้แย่งอาหารของต้นจะทำให้ต้นอ่อนแอ อีกทั้งเด็ดยอดที่ชะลูดทิ้งเพื่อทำให้ต้นเป็นพุ่ม เมื่อติดดอกรุ่นต่อมาจึงปล่อยให้ติดผล เป็นผลอ่อนและแก่เต็มที่เมื่ออายุ 110-120 วัน พริกบางช้างเป็นพืชล้มลุกมีอายุสั้นประมาณ 150 วัน ระหว่างที่ปลูกและให้ผลผลิตต้องหมั่นดูแลป้องกันศัตรูพืชสำคัญคือเพลี้ยไฟ แมลงวันพริก และไรขาว จะทำให้เกิดโรคกุ้งแห้ง โรคเหี่ยวเขียว โรคใบจุดตากบ โรคใบด่างประพริก และโรคไวรัสใบหงิกเหลือง
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ขอเชิญเกษตรกรและประชาชนชาว จ.สมุทรสงครามที่สนใจพริกบางช้างรับแจกต้นพันธุ์เอาไปปลูกคนละไม่เกิน 10 ต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายๆใด พร้อมรับความรู้เรื่องการดูแลพริกบางช้าง ระหว่างวันที่ 19-30 ก.ย.67 ที่สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ถนนเอกชัย ต.ลาดใหญ่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม โทรศัพท์ 034-711711 ต่อ 107