เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงได้มีการพูดคุยกับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย แล้วหรือยัง กรณีคลิปเสียง ว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญกับคลิปเสียง ลองฟังดูแล้วก็เป็นเรื่องของอดีต พูดตั้งแต่ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ตั้งแต่ปีมะโว้ อย่าไปให้ความสำคัญ เปลืองเนื้อที่สมอง ถ้าจะไปคุยเรื่องพวกนี้ เราควรคุยถึงเรื่องปัจจุบัน
เมื่อถามว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็จะทำให้อีกหน่อยคนไม่ไว้วางใจกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดี เรามีการสื่อสารกัน สนทนากัน เราต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ไม่ควรอัดเทป
เมื่อถามว่า ต่อไปนี้นักการเมืองคุยกันก็จะระแวงกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อีกหน่อยจะไม่มีการคุยอะไรกันเลย ตนกลัวอย่างนั้นมากกว่า พอไม่พูดคุยกัน ไม่สื่อสารกันมีความระแวงกัน ความร่วมมือต่างๆ ก็คงไม่ดี เพราะฉะนั้นเราต้องเลิกค่านิยมเหล่านี้ ส่วนตนไม่ได้กังวลอะไร เพราะเวลาจะพูดอะไร ตนพูดตามข้อเท็จจริง เดี๋ยวนี้เวลาจะพูดอะไรมีคนมาเตือนว่าให้ระวังจะมีการอัดเทป จะอัดก็อัดไป เพราะตนไม่ได้พูดอะไรที่เป็นความลับ หรือสิ่งที่ผิดทำนองคลองธรรม
เมื่อถามว่าควรจะประณามพวกที่ทำอย่างนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ให้สังคมตัดสิน เมื่อถามอีกว่าขนาดบ้านป่ารอยต่อฯ ยังมีคลิปเสียงออกมา แล้วบ้านจันทร์ส่องหล้ามีคลิปเสียงออกมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เห็นจะมีผลอะไร จะมีการอัดหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะวันที่ไปประชุมก็ไม่ได้มีการชี้นำ ชี้แนะ ครอบงำอะไรทั้งสิ้น เป็นการพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล มีตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล มีผู้บริหารพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมานั่งคุยกัน เป็นการรับรู้สถานการณ์ เพราะเมื่อวันที่ 14 ส.ค. เราไม่มีนายกรัฐมนตรี เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ก็เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า รู้สึกเห็นใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกกระหน่ำหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใช่ เป็นเรื่องไม่ดี เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นเรื่องของการที่นำเอาสิ่งละอันพันละน้อยที่ไม่ได้ข้องเกี่ยว แต่เอามาดิสเครดิตกัน ผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นใจพล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แสดงว่าผู้สื่อข่าวก็เห็นใจ สิ่งที่พล.อ.ประวิตรถูกกระทำ ไม่น่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องเท่าไหร่นัก และการสนทนาต่างๆ มันก็ไม่ใช่ AI