เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 12 ก.ย. ที่อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหัวหน้าส่วนราชการที่อยู่ในพื้นที่ อาทิ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
โดย นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้รับรายงานตั้งแต่เช้าอัปเดตสถานการณ์กับทางรัฐมนตรีตลอด ซึ่งสถานการณ์ทั้งจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ค่อนข้างหนักพอสมควรจึงอยากให้ทางข้าราชการที่เกี่ยวข้องได้รายงานให้ทราบซึ่งตอนนี้น้ำเข้ามาถึงอำเภอเมืองแล้ว และทราบว่าเข้ามาตรงสนามบินด้วย แต่รันเวย์ยังใช้ได้ ตนอยากจะสื่อสารให้ทราบว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาหลังจากที่รอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อที่จะสั่งการได้ และรัฐมนตรีและรองนายกฯ ทุกท่านได้ดำเนินการล่วงหน้าเพื่อเป็นการดูแลประชาชนไปก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนปัญหานี้ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อที่จะรักษาและทำให้ประชาชนออกจากปัญหาและอุปสรรคเร็วที่สุด
จากนั้นในช่วงท้ายการประชุม นายกฯ ได้มีข้อสั่งการ ว่า ต้องเอ่ยถึงปลัดมหาดไทย และผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ที่ทำงานร่วมกันอย่างแข็งขัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่อาหารยังไปไม่ถึงพี่น้องประชาชน แต่วันนี้อาหารเหลือเฟือแล้ว ฉะนั้นประชาชนสามารถมีอาหารทานได้ 3 มื้อรวมถึงน้ำด้วย ต้องขอบคุณข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รองนายกฯ และรัฐมนตรีที่ส่งกำลังไปแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วมากๆ และแน่นอนรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำท่วมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการอพยพประชาชนให้ออกมาอยู่ที่พักพิงที่รัฐบาลจัดไว้ให้ หรือยารักษาโรคต่างๆ ที่ได้เตรียมไว้ก็พยายามจะเน้นในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น และต่อจากนี้ขอให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการต่ออย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขออนุญาตแบ่งเป็นข้อให้เกิดความชัดเจนว่าหน่วยงานไหนดูเรื่องใด จึงขออนุญาตสั่งการตรงนี้เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุดตอนนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดูแลในเรื่องของการอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยงให้เกิดความปลอดภัย สนับสนุนเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม ให้เพียงพอ และขออาหารของสัตว์เลี้ยงด้วย จะได้มีความปลอดภัยกันทั้งหมด นอกจากนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงสาธารณสุข ได้มีโอกาสคุยกับ สส.จังหวัดเชียงราย ทราบว่าตอนนี้สาธารณสุขจัดเรื่องยาเท้าเปื่อยเพิ่ม ซึ่งทางพี่น้องประชาชนขอมา เพราะอยู่ในน้ำนานแล้ว ขึ้นไปอยู่บนหลังคา จึงทำให้มีอาการเท้าเปื่อยเยอะขึ้น ขอฝากทางสาธารณสุขด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางต่างๆ ต้องช่วยกันขนย้ายผู้คนออกมาให้เร็วที่สุด
นายกฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้ขอทางกองทัพเรือ ฝากเรื่องความเป็นอยู่ที่ศูนย์อพยพ อันนี้จำเป็นมากเรื่องการขนย้ายต่างๆ ส่วนเรื่องการกำหนดภารกิจช่วยเหลือประชาชน เช่น การดูแลการดำรงชีพ ตั้งศูนย์พักพิง ประกอบอาหาร ศูนย์การแพทย์สาธารณสุข อุปกรณ์เครื่องมือ แต่ละหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในเรื่องของงบกลางรัฐบาลได้ดันงบกลางที่จะเป็นส่วนในการช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่แค่ตอนเยียวยา แต่ ณ ตอนนี้ด้วย อยากให้ทุกฝ่ายเล็งเรื่องของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รักษาชีวิตพี่น้องประชาชนโดยด่วนที่สุด และในเรื่องของงบกลางมีการกันไว้ นี่คือเหตุจำเป็นและเร่งด่วน นี่คือเรื่องของชีวิตประชาชน
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ยังมีเรื่องของระบบเตือนภัย อย่างที่ทราบกันดีในหลายพื้นที่ได้มีการพูดคุยกันและทราบว่าระบบเตือนภัยสามารถทำงานได้ เราได้รับคอมเมนต์ในเรื่องของพี่น้องประชาชน ยังไม่อยากออกมาจากบ้าน เพราะบางทีเสียดายทรัพย์สิน เราก็เข้าใจ แต่ระบบเตือนภัยได้เตือนแล้ว อยากบอกพี่น้องประชาชนว่าขอรับตรงนี้ ให้ดูเรื่องการเยียวยาดูแลประชาชนให้ตระหนักรักษาชีวิตตัวเองก่อน ออกมาจากพื้นที่ประสบภัยให้เร็วที่สุด ส่วนอย่างอื่นต้องดูว่ารัฐบาลจะสามารถช่วยได้ในรูปแบบไหนบ้าง อันนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะช่วยกันดูแลต่อไปในเรื่องความปลอดภัยพี่น้องประชาชนและทรัพย์สินที่สูญหายไประหว่างเกิดอุทกภัย
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เมื่อน้ำลดแล้วทุกส่วนราชการขอให้ตรวจสอบในเรื่องความเสียหาย ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนได้ใช้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นสะพาน ระบบไฟฟ้า ประปา และสร้างความเข้าใจรับฟังปัญหาความต้องการและดำเนินการปรับปรุงให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และขอมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ช่วยตรวจสอบและเสริมความมั่นคง แข็งแรงเชิงโครงสร้างให้กับคันกั้นน้ำระบบระบายน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ และเร่งรัดปรับปรุงให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว ขอให้กรมทรัพยากรธรณีเร่งรัดดำเนินการที่เกี่ยวกับระบบเตือนภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยสูงโดยด่วนเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้า และเตรียมการให้ทันเวลา และขอเพิ่มเติมให้มีการซักซ้อมให้ความรู้กับประชาชนด้วยว่าเส้นทางไหนหรือที่พักพิงไหนเมื่อเกิดเหตุการณ์พี่น้องประชาชนควรทำอย่างไรเพื่อให้ง่ายกับความเข้าใจของพี่น้องประชาชน และเนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ขอให้ส่วนราชการที่ทำหน้าที่คาดการณ์สภาพอากาศ รวมทั้งจิสด้าติดตามปริมาณของฝนที่เพิ่มสูงขึ้น วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แนวโน้มแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกันและแก้ปัญหา
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาคให้พิจารณาการใช้เงินจากกองทุนและการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมอบหมายสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป และจากนี้ขอมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ช่วยกันพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำในระยะยาวต่อไปในแต่ละพื้นที่
“ส่วนวันที่ 13 ก.ย. ดิฉันและครม.บางท่านได้วางแผนลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย ขอให้ผู้ดูแลไม่ว่าจะหน่วยทหารหรือปลัดที่อยู่ตรงนั้น ช่วยพิจารณาประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าเห็นอย่างไร เพราะตอนนี้เชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีเป็นห่วงพี่น้องประชาชน แต่ที่แน่ๆ ไม่อยากให้ไปแล้วขัดต่อการดำเนินการช่วยเหลือใดๆ จริงๆ ย้ำชัดๆ ขออนุญาตให้ไม่ต้องมาต้อนรับ ขอให้เป็นเรื่องการนำเส้นทางนิดหน่อยพอ ไม่ต้องจัดอะไรใหญ่ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เข้าใจอยู่แล้วว่าไม่สามารถจะมาต้อนรับอะไรทั้งสิ้น ขอให้ความช่วยเหลือระบบราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่หน้างานกับพี่น้องประชาชน ส่วนดิฉันและรัฐมนตรีจะประสานพื้นที่ ลงให้เร็วที่สุดเมื่อสามารถทำได้ และไม่ขัดต่อการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งของการประชุม พล.อ.ทรงวิทย์ ได้เดินไปรายงานสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายกับนายกฯ หลังจากลงพื้นที่ไปด้วยตัวเอง โดยนายกฯ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินมายืนพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว.