สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 18 ต.ค.โดยอ้างข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่ง ว่าศาลอุทธรณ์ในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีคำสั่ง เมื่อวันจันทร์ อนุญาตให้นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี ถือครองหนังสือเดินทางระหว่างวันที่ 20 ต.ค. จนถึงวันที่ 22 พ.ย.นี้ เพื่อใช้เดินทางไปยังสิงคโปร์ เยี่ยมเยียนบุตรสาวที่ใกล้ถึงกำหนดคลอด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังศาลแห่งเดียวกัน อนุญาตให้นางรอสมาห์ มานซอร์ ภรรยาของนาจิบ สามารถถือครองหนังสือเดินทางได้ภายในกำหนดระยะเวลาเดียวกัน ด้านรัฐบาลมาเลเซีย สำนักงานเลขาธิการศาล และครอบครัวของนาจิบ ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ
Court of Appeal allows return of Najib's passport so he can visit daughter in Singaporehttps://t.co/6u3Pqlp5Ix https://t.co/6u3Pqlp5Ix
— The Star (@staronline) October 18, 2021
ทั้งนี้ ศาลไฮคอร์ตในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีคำพิพากษาเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว ว่านาจิบมีความผิดจริงฐานทุจริตเงิน 42 ล้านริงกิต (ราว 337.23 ล้านบาท) จากกองทุนเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนย่อยของกองทุนพัฒนาแห่งชาติ “วัน มาเลเซีย เดเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด” หรือวันเอ็มดีบี โดยยักยอกเงินดังกล่าวเข้าบัญชีส่วนตัว ระหว่างจัดการกองทุนเมื่อช่วงปี 2554 ถึง 2558 ให้รับโทษจำคุกเป็นเวลา 12 ปี และชำระค่าเสียหาย 210 ล้านริงกิต (ราว 1,686.15 ล้านบาท) ปัจจุบัน คดีความอยู่ในชั้นอุทธรณ์
Former prime minister Datuk Seri Najib Razak, who is convicted of seven charges involving the misappropriation of RM42mil in the SRC International Sdn Bhd case, has filed an appeal against his conviction and sentence.
— The Star (@staronline) July 30, 2020
Read more https://t.co/8OhMqlCUmM pic.twitter.com/pkygba3pJH
สำหรับคดีความเกี่ยวกับกองทุนเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นเพียงคดีแรกจาก 5 คดี รวมคำฟ้องทั้งสิ้น 42 ข้อหา ที่อัยการสูงสุดของมาเลเซียต้องการเอาผิดนาจิบ ว่าคอร์รัปชั่นอย่างร้ายแรง ด้วยการใช้อำนาจมิชอบ ฟอกเงิน ฉ้อโกง และละเมิดต่ออำนาจหน้าที่ เพื่อการ “ปล้นทรัพย์อย่างเป็นระบบ” จากวันเอ็มดีบี ที่นาจิบก่อตั้งเองเมื่อปี 2552 และกลายเป็นมหากาพย์คดีคอร์รัปชั่นทางการเงินมโหฬารที่สุดครั้งหนึ่งของโลก พัวพันหลายประเทศทั้งระดับรัฐและเอกชน และมี “ผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก” โดยพนักงานสอบสวนของมาเลเซียเชื่อว่าระหว่างปี 2552 ถึง 2557 มีการยักยอกเงินจากวันเอ็มดีบีประมาณ 18,364.35 ล้านริงกิต (ราว 147,452.30 ล้านบาท).
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES