หากมองในมุมยุทธศาสตร์การเมือง กฎ กติกา มารยาท ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านภายใต้ การนำของพรรคเพื่อไทย (พท.) ตกอยู่ในสถานะถูก ขึงพืด เสียเปรียบฝ่ายผู้มีอำนาจในรัฐบาลแทบทุกประตู และมีหลายครั้งที่พรรคเพื่อไทย เดินหมากผิดพลาด

สุ่มเสี่ยงนำไปสู่การยุบพรรคในอนาคต!

โดยเฉพาะคิวร้อนล่าสุดที่ ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท.มือลั่นส่งคลิปวิดีโอเข้ากลุ่มไลน์ ส.ส.พรรค โดยเป็นคลิปบรรยากาศงานเลี้ยง ส.ส.และผู้บริหารพรรคจัดขึ้นที่บ้าน “เฮียเพ้ง” นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต รมว.พลังงาน สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ภายในคลิปนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรค พท. และแกนนำภาคอีสานจาก จ.อุบลราชธานี ถามนายทักษิณ ประเด็นให้ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา มาเป็นหัวหน้าพรรค พท.เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

ขณะที่นายทักษิณ ยืนยัน คุณหญิงพจมานเป็นคนไม่ชอบการเมืองที่สุด แต่ที่ผ่านมาตกกระไดพลอยโจน

“คุณหญิง (พจมาน) อาจจะอายุมากไปนะ และถ้าไม่จำเป็นอย่างยิ่งยวด คุณหญิงจะไม่ขอลงการเมือง เพราะไม่ชอบ สองปราศรัยไม่ถนัด ไม่ถนัดที่จะพูดต่อหน้าคนเยอะๆ นั่งเป็นประธานในที่ประชุมได้ แต่ว่าไปขึ้นปราศรัย ขึ้นเวทีทักทายประชาชนทำไม่เป็น” นายทักษิณ ระบุ

ในช่วงท้ายคลิปนายทักษิณ กล่าวด้วยว่า “ผมมีหลายแนวทาง รับรองว่าแต่ละแนวทางเนี่ย ส.ส.ที่คิดจะออก รับตังค์เขามาแล้ว ต้องเอาตังค์ไปคืน เที่ยวนี้ต้องชนะแลนด์สไลด์เพราะว่าชนะธรรมดา มันไม่ให้เป็นรัฐบาลหรอก ถ้าแลนด์สไลด์มันไม่กล้าเป็นรัฐบาล ต้องเอาแลนด์สไลด์ชนิดที่ไม่กล้าเป็นรัฐบาล

หลังจากนั้นไม่นาน คลิปดังกล่าวถูกลบออกไปจากกลุ่มไลน์ อาจเพราะรู้ตัวภายหลัง เนื้อหาในคลิปสุ่มเสี่ยงถูกนำไปสู่การถูกร้องเรียนยุบพรรค ซ้ำรอยประวัติศาสตร์ ที่โดนลากไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทย ปี 2549 และ ยุบพรรคพลังประชาชน ปี 2551

ทั้งนี้ตามเงื่อนไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วางกฎเหล็กยุบพรรคการเมืองทั้งหมด 3 ข้อ

(1) ข้อแรก ยุบพรรคที่กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

(2) ข้อที่สอง ยุบพรรคที่กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

(3) ข้อที่สาม ยุบพรรคที่กระทำการฝ่าฝืน 9 มาตรา ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองประกอบด้วย มาตรา 20 วรรคสอง, มาตรา 28, มาตรา 30, มาตรา 36, มาตรา 44, มาตรา 45, มาตรา 46, มาตรา 72 หรือมาตรา 74

โดยเฉพาะมาตรา 28 ให้ยุบพรรคที่ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกพรรค กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม!

ในกรณีคลิปนายทักษิณ ทำให้ถูกหลายฝ่ายตีความอาจเข้าข่าย ฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมืองในประเด็น ปล่อยให้คนนอกเข้ามาควบคุม ครอบงํา และนำไปสู่การยื่นเรื่องยุบพรรค

นอกจากนี้เนื้อหาในคลิปยังมีประเด็นที่น่าสนใจ เมื่อนายทักษิณ ประกาศตั้งเป้าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรค พท. ต้องได้รับชัยชนะแบบแลนด์สไลด์ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล!

หากถอดรหัสคณิตศาสตร์การเมืองแบบ “แลนด์สไลด์” ในนิยามของนายทักษิณ มีความหมายต้องได้ ส.ส. มากกว่า 375 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา 750 เสียง เพื่อนำไปสู่การยกมือโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมรัฐสภา

แต่พรรคเพื่อไทย ต้องไม่ลืมภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับดีไซน์มาเพื่อพวกเรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการคะแนนเสียง ส.ส.ขั้นต่ำเพียง 125 เสียง เมื่อบวกกับเสียง 250 ส.ว. ที่หัวหน้า คสช.ทำคลอดมากับมือ พล.อ.ประยุทธ์ ย่อมสามารถกลับเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยหน้าได้แบบสบายๆ

ประกอบกับเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่สร้างความได้เปรียบในสนามการเมือง ทำให้มีแนวโน้มหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคร่วมรัฐบาลจะประกอบด้วย 3 พรรคหลักคือ พลังประชารัฐ ,ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย เช่นเดิม

นายทักษิณ รู้ดีภายใต้กติการัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ในสภาพที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน อยู่ในสภาพบักโกรก อดอยาก อ่อนล้า หลายคนต้องหนีไปเป็น ส.ส.งูเห่า

สถานการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องปลุกปลอบขวัญกำลังใจ แม้โอกาสชนะมีน้อย ความหวังริบหรี่ เลือนราง!