จากกรณี “เดลินิวส์” ได้เสนอข่าวปัญหาการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่าหรูให้เช่าของชาวต่างชาติบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การตรวจสอบของ กอ.รมน.ภาค 4 และพบปัญหาความรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยมีการประเดิมกล่าวโทษเอาผิดการก่อสร้างวิลล่าหรู จำนวน 53 หลัง บนเขาเฉวงน้อย พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.บ่อผุด ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ขณะที่เทศบาลใช้คำสั่งปกครอง ทุบ 2 อาคารนำร่อง ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.ย. นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบและดำเนินการปิดกั้นสถานที่ และห้ามใช้อาคารใน 3 โครงการวิลล่าหรู พื้นที่เขาหมาแหงน ต.บ่อผุด จำนวน 21 หลัง ในการเข้าดำเนินการครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เป็นไปตามการบังคับใช้คำสั่งทางปกครองของเทศบาลนครเกาะสมุย ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 แต่ปรากฏว่ายังมีผู้ฝ่าฝืนเข้าไปใช้อาคารอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการนั้นปรากฏว่า ได้มีผู้พักอาศัยอยู่ในอาคารวิลล่า 3 หลัง ทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ โดยมีหนึ่งในชาวต่างชาติที่อาศัยอาศัยอยู่ในวิลล่าดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส รับว่า ได้มาเช่าวิลล่า ในราคาเดือนละ 20,000 บาท ใช้สัญญาเช่า 1 ปี เพื่อทำธุรกิจรับทำความสะอาดบนเกาะสมุย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับผู้อยู่อาศัย ถึงข้อกฎหมายและสาเหตุที่ผู้เสียอาศัยจะต้องออกจากอาคาร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการตรวจสอบอาคารอื่นๆ ไม่พบผู้อยู่อาศัย แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า อาคารอื่นที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย มีการประกาศให้เช่าทั้งแบบรายวันและรายเดือน
ก่อนหน้านี้ ที่ห้องประชุมนางยวน ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4/รอง ผอ.รมน.ภาค 4 เป็นประธานประชุมความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และบังคับใช้คำสั่งทางปกครองตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย หลังมีการดำเนินการเข้าตรวจสอบแก้ไขปัญหาสิ่งปลูกสร้างบนพื้นที่ลาดชันสูงและการประกอบธุรกิจของชาวต่างด้าวบนเกาะสมุย โดยมี นายนันธวัช เจริญวรรณ รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.สอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 8 เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
รื้อแล้ว ‘วิลล่าหรูเกาะสมุย’ กันพื้นที่ห้ามเข้า คุมเข้มบังคับใช้กฎหมาย…
โดย พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 รายงานความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ใน 3 บริษัทนิติบุคคล ในการก่อสร้างอาคารวิลล่าบนพื้นที่สูงในพื้นที่ ต.บ่อผุด ซึ่งมีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 ว่าจากการตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารสิทธิของที่ตั้งโครงการ พบว่าเอกสารที่ดินบริเวณพื้นที่ออกโดยไม่ชอบ ในลักษณะของ ส.ค. บิน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ช. จ.สุราษฎร์ธานี และมีการก่อสร้างอาคารในเขตพื้นที่ห้ามก่อสร้าง รวม 46 หลัง ซึ่งเทศบาลเทศบาลนครเกาะสมุยได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้าง, ห้ามใช้อาคาร, รวมถึงรื้อถอนไว้แล้ว แต่ที่ผ่านมา ผู้ที่ได้รับคำสั่งไม่มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งตามกฎหมาย จึงถือว่าคำสั่งดังกล่าวของเทศบาลนครเกาะสมุย ชอบด้วยกฎหมาย
ด้าน พล.ต.อนุสรณ์ โออุไร รองแม่ทัพภาคที่ 4 รอง ผอ.รมน.ภาค 4 กล่าวว่า กรณีคำสั่งทางปกครอง ที่ออกโดยเทศบาลนครเกาะสมุย เมื่อผู้ประกอบการหรือผู้ที่ได้รับคำสั่ง ไม่มีการอุทธรณ์ถือว่าสิ้นสุดแล้ว กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการบูรณาการให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ตนจะไม่มองว่าที่ผ่านมา มีแนวทางปฏิบัติกันอย่างไร อะไรคือสาเหตุที่ทำให้การแก้ไขปัญหาการทรัพยากรธรรมชาติ และการก่อสร้างอาคารวิลล่าบนพื้นที่ภูเขาสูง ใน อ.เกาะสมุย ไม่มีความคืบหน้า แต่การทำงานของ สมุยโมเดล ในอนาคตนับแต่นี้ไป จะต้องรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เพื่อยับยั้งปัญหาที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น จากการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต
พล.ต.อนุสรณ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าเมื่อเราเดินตามขั้นตอนและทำไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย บนความยุติธรรม และเมื่อเราทำเต็มที่เต็มความสามารถ ก็จะไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย เพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และให้ถือว่าเป็นหน้าที่ของข้าราชการในการบังคับใช้กฎหมายให้มีความเป็นธรรม และเท่าเทียมกับทุกๆ คน