นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (จีพีเอสซี) แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วยจีพีเอสซี, บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม หรือซีเอชพีพี, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือเอ็กซิมแบงก์, องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือทีจีโอ และบริษัท นีโอคลีน เอ็นเนอยี่ หรือเอ็นอีโอ เพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือโซลาร์ รูฟท็อป และขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตภายใต้โครงการ Solar Orchestra ที่จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้ามาลงทุนโซลาร์ รูฟท็อป แล้วขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย และรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ที่เรียกว่า คาร์บอนเครดิต และนำคาร์บอนเครดิตไปแลกเปลี่ยนซื้อขายได้ ตั้งเป้าหมายการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป กว่า 100 เมกะวัตต์ภายในสิ้นเดือน ธ.ค. 65

ทั้งนี้ความร่วมมือ จีพีเอสซี จะถ่ายทอดความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน, ซีเอชพีพี บริษัทในกลุ่มซึ่งจีพีเอสซี ถือหุ้น 100% จะเป็นผู้รับเหมาหลักในการพัฒนาติดตั้งโซลาร์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ Solar Orchestra ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ขณะที่เอ็กซิมแบงก์ จะให้การบริการทางการเงินแก่ผู้ประกอบการที่สนใจติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป ให้ผู้ประกอบการเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาด ช่วยลดต้นทุนค่าพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก, ทีจีโอ จะสนับสนุนความร่วมมือเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กระบวนการและหลักเกณฑ์การขอขึ้นทะเบียน


“ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการมอบสิทธิประโยชน์แบบออล อิน วัน แพ็กเกจ ให้กับผู้ประกอบการไทยที่สนใจลดค่าไฟฟ้า โดยการติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในกิจการ จากการร่วมดำเนินงานโดยบริษัทชั้นนำของประเทศ พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) การสนับสนุนทางการเงินด้วยเงื่อนไขพิเศษ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ด้านคาร์บอนเครดิต”