เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงมติที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่เชิญพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลเมียนมา ร่วมการประชุมสุดยอดของอาเซียนในวันที่ 26-28 ต.ค.นี้ ว่า จะไม่มีปัญหาจากเรื่องนี้ แต่อาเซียนจะต้องดูว่าสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเรื่องนี้จะมีผลอะไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีผลใดๆ นอกจากมุมมองของเมียนมาเท่านั้น แต่ฝ่ายเมียนมาต้องนำเรื่องนี้ไปคิดประกอบกับการต้องปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อที่มาจากการประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียน ด้านเมียนมา สามารถปฏิบัติงานได้ลุล่วง

ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเป็นโอกาสให้แต่ละประเทศสมาชิกได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นเมียนมาอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งได้ช่วยลดช่องว่างทางการสื่อสารใดๆ ที่อาจมีเกี่ยวกับความคาดหวังของอาเซียนต่อบทบาทของอาเซียนในการอำนวยความสะดวกให้มีการปรองดองแห่งชาติโดยสันติในเมียนมาผ่านการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน โดยคำนึงว่าเมียนมาเป็นประเทศสมาชิกของอาเซียนอย่างเท่าเทียมกันกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ทั้งนี้ ไทยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนและความพยายามของผู้แทนพิเศษฯ ในการดำเนินการตามอาณัติให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขปัญหาในเมียนมาอย่างสันติและยั่งยืนโดยเป็นกระบวนการที่เมียนมามีบทบาทนำและเป็นเจ้าของ ขณะเดียวกัน ไทยเชื่อว่าความเป็นเอกภาพของอาเซียนมีความสำคัญต่อการที่อาเซียนจะมีเสียงที่เป็นหนึ่งเดียวกันและต่อความเป็นแกนกลางของอาเซียน