สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า สมาคมเกษตรกรรมแห่งชาติอิตาลี “โคลดิเร็ตติ” รายงานว่า ผลผลิตไวน์ของอิตาลีจะฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 8 หรือ 41-42 ล้านเฮกโตลิตร จากที่เคยย่ำแย่เมื่อปี 2566 ขณะที่กระทรวงเกษตรของฝรั่งเศสคาดการณ์ว่า ผลผลิตของฝรั่งเศสจะลดลงร้อยละ 18 หรือ 39.3 ล้านเฮกโตลิตร
ตามข้อมูลขององค์กรองุ่นและไวน์นานาชาติ (โอไอวี) ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2549 อิตาลีครองแชมป์ผู้ผลิตไวน์รายใหญ่ที่สุดของโลกทุกปี ยกเว้นปี 2554, 2557 และ 2566 ซึ่งถูกแซงหน้าโดยฝรั่งเศส
รายงานของโคลดิเร็ตติระบุด้วยว่า ภูมิภาคทางตอนเหนือของอิตาลี กำลังเผชิญกับฝนตกหนัก และมีลูกเห็บตกในฤดูใบไม้ผลิ และต้นฤดูร้อน ด้านภูมิภาคทางตอนใต้ของอิตาลี รวมถึงซิซิลีต้องเผชิญกับภัยแล้ง ขณะที่ความร้อนและฝนตกน้อยในหลายพื้นที่ของอิตาลี ทำให้เกษตรกรต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตเร็วขึ้นกว่าปกติ
บนภูมิภาคเทือกเขาจูรา ทางตะวันออกของฝรั่งเศส มีการคาดการณ์ว่าน้ำค้างแข็ง และโรครานํ้าค้าง จะส่งผลให้ผลผลิตลดลงถึงร้อยละ 71 ในภูมิภาคชาร็องต์ ทางตะวันตกของประเทศ อาจมีปริมาณผลผลิตลดลงร้อยละ 35 ในหุบเขาลัวร์ ผลผลิตจะลดลงร้อยละ 30 และในเมืองโบโฌเลส์ แคว้นเบอร์กันดี ผลผลิตจะลดลง 1 ใน 4 เนื่องจากผลกระทบที่รุนแรงจากลูกเห็บ.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES