เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก paisal puechmongkol ระบุว่า

ว่าด้วยยุทธภูมิอีสาน!!!

1. ภาคอีสานเป็นสมรภูมิใหญ่ทางการเมืองของประเทศไทย ใครครองคะแนนเสียงภาคอีสานได้ ก็จะครองอำนาจการเมืองได้ เพราะอีสานมีพลังดึงดูดพื้นที่อื่นให้คล้อยตามได้ อีสานเป็นดินแดนที่มีประชากรมากที่สุด ลำบากยากจนมากที่สุด เคยขาดแคลนและล้าหลังมากที่สุด แต่ด้วยความมานะบากบั่นและความเสียสละของชาวอีสาน ภาคอีสานจึงพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

2. จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็เป็นนายทหารไทยคนแรกที่เข้าใจยุทธภูมินี้และเป็นผู้ริเริ่มพัฒนาภาคอีสานในยุคใหม่! เมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 สถาปนารถไฟเชื่อมกรุงเทพกับต่างจังหวัดแห่งแรก ก็โปรดให้สร้างทางรถไฟกรุงเทพ-โคราช โดยวางศิลาฤกษ์พร้อมกัน พระองค์ท่านทรงวางศิลาฤกษ์ที่กรุงเทพและโปรดให้กรมพระยานริศฯ เป็นผู้แทนพระองค์ไปวางศิลาฤกษ์ที่โคราชพร้อมกัน

3. พื้นที่ภาคอีสานแม้กว้างใหญ่แต่มียุทธภูมิที่สำคัญ 6 เมือง คือ โคราช ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ เมื่อครั้งมีมณฑลพายัพก็โปรดให้เชื้อพระวงศ์องค์สำคัญไปปักหลักคุมกำลังอยู่ที่อุดรธานี! เมื่อครั้งพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ลงสนามเลือกตั้งครั้งแรก ก็ได้ประกาศยุทธศาสตร์อีสาน และกำหนดยุทธวิธีสามชัย จึงทำให้เข้าสู่การเมืองได้สำเร็จ ไม่ต้องแย่งยึดอำนาจใคร

4. ดูจังหวะก้าวของคุณพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ไปโคราชเปิดประตูอีสานเข้าไป “กราบสักการะพระหลักเมืองและย่าโม” จากนั้นก็ไปขอนแก่นไป “กราบพระหลักเมือง” อีก ขอพรให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง แม้เป็นการเดินเพียงสองก้าวแรกก็นับว่าเคลื่อนตัวเข้าถูกยุทธภูมิ คือ ทั้งพื้นที่ยุทธภูมิและใจคนในยุทธภูมินั้น

ก็คอยดูจังหวะก้าวที่เหลือกันเอาเอง ส่วน พปชร.นั้นก็ได้ยินว่า ร้อยเอกธรรมนัส เลขาธิการพรรค ก็ทราบเรื่องยุทธภูมิอีสานเป็นอย่างดี เพราะอยู่ในสายลูกเขยของพลเอกจรวย วงศ์สายัณห์ มาก่อน และกำลังซุ่มวางกำลังใน 6 ยุทธภูมินี้เช่นเดียวกัน

จับตาคุณหญิงสุดารัตน์ ก็กำลังขยับตัวไปยังยุทธภูมิอีสาน  

5. เหตุนี้จึงกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่าประมาทพรรคก้าวไกลเป็นอันขาด ผมวิเคราะห์เพียงเท่านี้ก็มีพวกกองเชียร์ที่ไม่รู้เหนือใต้มายัดเยียดหาว่าผมไม่ใช่คนไทย เมื่อลงโพสต์นี้แล้ว ผมอาจถูกผลักไสว่าเป็นพวกล้มเจ้าก็ได้!!!

เวรกรรมนะจ๊ะเธอจ๋า