รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 ต.ค.นี้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เกี่ยวกับโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ คาดว่าจะมีกรอบวงเงินรวม 46,873 ล้านบาท แยกเป็น การรักษาการจ้างงานในกลุ่มเอสเอ็มอี 95% รวม 480,122 แห่ง คิดเป็นจำนวนลูกจ้าง 5,040,176 คน วงเงิน 45,361 ล้านบาท และอีกส่วน คือ การส่งเสริมการจ้างงานใหม่ในกลุ่มเอสเอ็มอี 5% จำนวนไม่เกิน 252,009 ราย ระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน วงเงิน 1,512 ล้านบาท

สำหรับการรักษาการจ้างงานในกลุ่มเอสเอ็มอีตามโครงการนี้ รัฐจะจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานผ่านนายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตราเดือนละ 3,000 บาทต่อลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สัญชาติไทย แต่ไม่เกิน 200 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่มีเงื่อนไขว่า นายจ้างจะต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 95% ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ และหากนายจ้างไม่สามารถรักษาระดับการจ้างงานให้ไม่ต่ำ 95% ได้จะไม่ได้รับเงิน อุดหนุนในเดือนนั้น

ส่วนวาระอื่น ๆ กระทรวงการคลัง เสนอร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการเก็บอากรศุลกากรตามมาตรการปกป้องพิเศษตามความตกลงการเกษตรขององค์การค้าโลก และความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน สำหรับสินค้ามะพร้าว พ.ศ.2564 รวมถึงรายงานการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่คู่สัญญาในการขายที่ราชพัสดุที่ตกเป็นของแผ่นดินตามคำพิพากษาของศาล และรายงานการพิจารณาขยายเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเป็นการชั่วคราวในปี 2564

ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 27 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย–มาเลเซีย–ไทย (IMT-GT) และยังมีรายงานด้วยว่า ที่ประชุมยังเตรียมพิจารณาเรื่องการต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายให้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ด้วย