เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จ.นนทบุรี นายสุรินทร์ หรือ ต้น ลิสอน อายุ 40 ปี ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนกับ ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิฯ นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิฯ แจ้งว่า ตนเองสอบติดตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ควบคุมผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ แต่ถูกปฏิเสธอ้างว่า วุฒิการศึกษาไม่ตรง ทั้งๆ ที่ตนมีหลักฐานแสดงทุกอย่าง ทั้งวุฒิการศึกษา คุณสมบัติการสอบผ่าน เมื่อถูกไล่ให้ไปขอวุฒิใหม่นำมาแสดง ก็นำมาแสดงให้จนครบถ้วน กลับบอกได้เพียงแค่คำว่า “ขอโทษ” เดี๋ยวติดต่อผู้ใหญ่หาที่ใหม่ให้เป็น พนักงานราชการจ้างเหมา ซึ่งตนเองรับไม่ได้ ตนพากเพียรอ่านหนังสือสอบมาแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 จนติดในตำแหน่งที่ต้องการ แต่กลับถูกปฏิเสธแบบนี้มันไม่ยุติธรรม
นายสุรินทร์ เผยว่า ลักษณะเรื่องราวของตนเหมือนกับเหตุการณ์ของครูเบญ เนื่องจากตนสมัครเข้ารับการคัดเลือกสอบเข้าบรรจุรับราชการ ตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ ปฏิบัติงานกรมราชทัณฑ์ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์โทรฯมาแจ้งว่า คุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร ซึ่งกระบวนการสอบทั้งหลายได้ผ่านมาครบทุกขั้นตอนของการสอบทุกอย่างแล้ว แม้กระทั่งการส่งจดหมายมาที่บ้านเพื่อให้ตนไปรายงานตัวในวันที่ 6 พ.ค. 67 เวลา 07.30 น. พร้อมกับเตรียมเอกสารต่างๆ อาทิ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษาฯ ทั้งสำเนาและตัวจริงเพื่อตรวจสอบเอกสาร และเลือกที่ปฏิบัติหน้าที่ก็คือเรือนจำกลางนครปฐม ทุกอย่างจบทุกขั้นตอนแล้ว จึงมีการนัดหมายให้มารับหนังสือรายงานตัวที่กรมราชทัณฑ์อีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค. 67 เวลา 07.30 น. และให้ไปรายงานตัวที่เรือนจำกลางนครปฐมในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
จนมาถึงวันที่ 16 พ.ค. 67 เวลา 17.20 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายสรรหาและบรรจุ โทรฯ มาแจ้งตนว่า วุฒิการศึกษาของตนไม่ตรงตามประกาศรับสมัคร ตนก็ได้ชี้แจงและให้ทางวิทยาลัยพลศึกษาสมุทรสาคร รับรองให้เรียบร้อยแล้วว่าเป็นอนุปริญญา ซึ่งก็ตรงตามประกาศรับสมัครของกรมราชทัณฑ์ แต่ก็ยังบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถบรรจุตนเข้ารับราชการได้ ตนได้ไปที่กรมราชทัณฑ์เพื่อติดต่อ ติดตาม ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่และผู้อำนวยการกองบริหารงานบุคคล ก็ได้รับแต่คำว่า ขอโทษ ที่ทางเราตรวจเอกสารผิดพลาด
ตนจึงบอกไปว่าพี่จะมาขอโทษแบบนี้ไม่ได้ เพราะตนเสียประโยชน์ เพราะได้ลาออกจากที่ทำงานเก่ามาแล้วเพื่อเตรียมตัวเข้ารับราชการที่กรมราชทัณฑ์แล้ว เพราะในประกาศผู้สอบผ่านและขึ้นบัญชี ตนสอบได้ในลำดับที่ 153 และท้ายประกาศตนไม่ได้ติดเงื่อนไขอะไรเลย จึงเป็นเหตุผลที่ตนลาออกจากที่ทำงานเดิมก็คือ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ตำแหน่งนักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ (ด้านพ่อบ้าน) เหตุการณ์นี้ทำให้ตนได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากไม่มีการเยียวยาแต่อย่างใดและต้องมาตกงาน เนื่องจากความบกพร่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ (ฝ่ายบรรจุและสรรหา) ตนจึงอยากให้ทางมูลนิธิรณรงค์ฯ โปรดช่วยเหลือด้วย เพราะตนก็มีภาระมีบุตร 2 คน ที่ต้องเลี้ยงดู
ว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ รองประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า เคสของผู้เสียหายรายนี้ไม่ต่างอะไรกับกรณีของครูเบญ ทางมูลนิธิฯ จะพาไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากผู้เสียหายมีคุณสมบัติครบถ้วน การที่เขาลาออกจากที่ทำงานเก่าแล้วมาสอบติดได้ในตำแหน่งที่ทำงานใหม่ที่เขารักในอาชีพ แต่กลับถูกปฏิเสธแบบนี้ ถือว่าเป็นการไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง ทางมูลนิธิฯ ต้องดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แน่นอน