นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากพายุฝนกระหน่ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา จากอิทธิพลของพายุ “ซูลิก” จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานเชียงใหม่ ทำการตรวจสอบแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาทุกจุดที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีความจุเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ อย่างต่อเนื่อง
ผลจากการตรวจสอบได้ทราบว่า สถานีตรวจวัด P.71A บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันยังไม่ล้นตลิ่ง ในขณะที่ลำน้ำทา ลำน้ำขาน มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลประตูระบายน้ำดอยน้อย เปิดประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มมากขึ้น โดยเปิดทั้งหมด 3 บาน บานที่ 2 และบานที่ 5 ยกสูง 2 เมตร และบานที่ 6 ยกพ้นน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำปิง เพื่อให้ลำน้ำทา และลำน้ำขาน สามารถไหลลงสู่แม่น้ำปิงได้สะดวก
ในขณะที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ควบคุมดูแลระดับน้ำในแม่น้ำปิงของเขตเมืองเชียงใหม่ ก็ได้ยกบานพ้นน้ำ 6 ช่องบาน เพื่อพร่องน้ำและเร่งระบายน้ำจากตัวเมืองเชียงใหม่ สู่ด้านท้ายน้ำ ปัจจุบันภาพรวมโดยส่วนใหญ่ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก และแม่น้ำสาขายังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีเพียงบางจุดเท่านั้นมีน้ำเพิ่มขึ้นหลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่หลังจากที่มีการเปิดประตูระบายน้ำในแม่น้ำปิง เพื่อพร่องน้ำในลำน้ำ ก็ทำให้สถานการณ์ในแม่น้ำสาขาลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจตัวเมืองเชียงใหม่ และพื้นที่ต่างๆ