เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จนส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในปัจจุบัน ว่า เรื่องของเงินบาทแข็งค่าขึ้น ข้อเท็จจริงแล้วทำให้เกิดความกังวลในทุกภาคส่วน ซึ่งในส่วนของรัฐบาลเอง เราสามารถทำได้ในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการส่งออก ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะใช้ข้อดีของค่าเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ให้ได้ แต่อีกด้านก็ต้องพูดคุยกัน
เมื่อถามว่าจะใช้โอกาสนี้พูดคุยกับทางผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวคงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ขอให้ทางกระทรวงการคลังไปพูดคุยกันดีกว่า ว่าจะแก้ตรงนี้อย่างไรได้บ้าง และร่วมมือกันอย่างไรได้บ้าง
จากนั้นเวลา 13.05 น. น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ประเด็นเรื่องเงินบาทแข็ง รัฐบาลสามารถทำเรื่องส่งออกเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกครั้งว่า เมื่อสักครู่ได้ฟังสิ่งที่ให้สัมภาษณ์ไป รู้สึกสับสน เรื่องของเงินบาท พอเงินบาทแข็ง การส่งออกจะเป็นปัญหา ทุกคนมีความกังวลใจ แต่ที่ตนพูดไปคือต้องการให้ใช้ข้อดีเกี่ยวกับเงินบาทแข็งในการนำเข้าสินค้า โครงการไหนที่จะนำเข้า ต้องล็อกตรงนี้ไว้ เพื่อเป็นโอกาสในช่วงที่เงินบาทแข็ง ซึ่งก็ต้องแก้ปัญหากันต่อไป กระทรวงการคลังก็ต้องพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เมื่อถามว่าผู้ว่า ธปท. ส่งสัญญาณจะไม่ลดดอกเบี้ย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนถึงบอกว่าต้องพูดคุยกัน ความจริงได้คุยกับ รมว.คลัง ไปแล้ว ว่าต้องร่วมมือกันหาทางออก
เมื่อถามต่อว่า นายกฯ จะเป็นคนคุยกับ ผู้ว่า ธปท. เองเลยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงให้กระทรวงการคลังพูดคุย น่าจะตรงและได้รายละเอียดมากกว่า
เมื่อถามอีกว่าสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เคยให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง เป็นผู้พูดคุย รัฐบาลนี้จะให้นายพิชัย ไปคุยแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมอบกระทรวงการคลังไป แต่ไม่ทราบจะเป็น รมช. ก็ได้ เพราะมีเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว ฉะนั้นต้องให้ไปคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันจะได้ช่วยกันได้
เมื่อถามย้ำว่าคงไม่ต้องรอให้ถึงรอบการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 16 ต.ค. นี้ ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงต้องคุยกันก่อน
เมื่อถามอีกว่า ตั้งแต่ยุคนายเศรษฐา ผู้ว่า ธปท. มีความเห็นสวนทางกับรัฐบาล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “คงต้องคุยกัน เพราะหากหาแนวทางร่วมกันไม่ได้ ความลำบากจะตกที่ประชาชน จึงต้องช่วยกัน เพราะเข้าใจกันอยู่แล้วว่า ถ้าเงินบาทแข็งกระทบอะไรบ้าง ซึ่งเมื่อกระทรวงการคลังไปพูดคุยแล้ว ได้รายละเอียดที่สุด ก็จะให้มาแถลงว่าจะทำอะไรได้บ้าง“