เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) เรียกประชุมหน่วยงานในสังกัด ตร. เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน, สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามผลระดมกวาดล้างซิมผี บัญชีม้า ช่วงวันที่ 10-25 กันยายน 2567 ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ทุกหน่วย เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด โดยในช่วง 16 วันที่ผ่านมา ทุกกองบัญชาการ สามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้กว่า 2,100 ราย จากเป้าหมายอย่างน้อย 500 ราย โดยกลุ่มคดีที่มีการจับกุมมากที่สุด เป็นคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงทางเทคโนโลยีทุกประเภท จำนวนกว่า 870 ราย ส่วนที่เหลือเป็นคดีเกี่ยวกับซิมผีบัญชีม้า และพนันออนไลน์
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน ว่า ขอให้ตรวจสอบว่าเคยเปิดใช้บริการหมายเลขโทรศัพท์กี่เลขหมาย และเปิดกับผู้ให้บริการเครือข่ายใดบ้าง หากหมายเลขโทรศัพท์ใดไม่ได้ใช้เอง หรือให้บุคคลอื่นนำไปใช้ ให้รีบไปแจ้งปิด หรือ ยกเลิกการใช้หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้เปิดบัญชีธนาคารทันที มิเช่นนั้น หากตำรวจตรวจพบว่าบัญชีนั้นๆถูกใช้เป็นบัญชีม้า และเจ้าของบัญชีจะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งเดือน ต.ค.นี้ มีแผนเปิดยุทธการปราบปรามซิมผีบัญชีม้าอีกครั้ง นอกจากนี้ในปี 2568 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการปรับปรุงพัฒนาพนักงานสอบสวน และกำหนดยุทธการสืบสวนกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง
ด้าน พล.ต.ต.เอกธนัช ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวว่า ปัจจุบัน ปปง. ได้มีการประกาศบัญชีเสี่ยงที่จะเป็นบัญชีม้ากว่า 5 แสนบัญชี และมีเงินอยู่ประมาณ 1,498 ล้านบาท ซึ่ง ปปง. อยู่ระหว่างร่างกฎหมาย เพื่อนำเงินส่วนนี้เฉลี่ยคืนผู้เสียหาย คาดไม่เกินต้นปีหน้าจะเริ่มคืนผู้เสียหายได้ โดยระหว่างนี้ หากประชาชนคนใด รับจ้างเปิดบัญชีให้บุคคลอื่น และกลัวถูกดำเนินคดี ขอให้ไปติดต่อธนาคารสาขาใดก็ได้ พร้อมแจ้งความประสงค์ขอปิดบัญชี และขอระงับการทำธุรกรรม ก็จะพ้นข้อหาบัญชีม้า ไม่เช่นนั้น หลังจากนี้จะถูกตำรวจดำเนินคดีเด็ดขาด
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังร่วมปราบปรามซิมผีบัญชีม้า เช่น กสทช. ได้ร่วมแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยตรวจสอบข้อมูลการโทรศัพท์ที่เกิน 100 สายต่อวัน ก็จะส่งข้อมูลให้ตำรวจเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันยังมีการปิดเลขหมายโทรศัพท์ไปแล้วกว่า 2 ล้านเลขหมาย ที่ไม่มีการยืนยันตัวตนกับ กสทช. และยังมีการจัดระเบียบหมายเลขโทรศัพท์กว่า 120 ล้านเลขหมาย โดยจะตรวจสอบว่าชื่อผู้ครอบครองตรงกันหรือไม่ ซึ่งจะมีการส่งข้อมูลให้ ปปง. ตรวจสอบช่วงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ รวมทั้งมีการตัดสายสัญญาณที่ลักลอบให้บริการข้ามแดน ขณะที่ เครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ได้ให้บริการยืนยันตัวตน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพนำเบอร์ไปใช้ในทางมิชอบด้วยเช่นกัน.