เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา ปรับการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น ในอัตรา 1699 ลบ.ม./วินาที ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย ลำคลองสาขาต่างๆ ปริมาณเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ลดระดับลงไป เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้ระดับน้ำกลับมาเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม เกือบ 2 เมตร จนถนนในชุมชนถูกน้ำท่วม รถยนต์ รถจักรยานยนต์สัญจรไม่ได้
นางทองสุข เนื่องไชยยศ อายุ 86 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.บางหลวง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ถึงกับโอดครวญว่า น้ำท่วมทีไรเป็นทุกข์ เพราะไม่มีรายได้อะไรนอกจากเงินคนชรา เพราะปลูกกล้วยหอมเอาไว้ขายเป็นรายได้ พอถูกน้ำท่วมเสียหายจึงขาดรายได้ โดยปีนี้บ้านถูกน้ำท่วมเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกระดับน้ำลดลงไปประมาณสองสัปดาห์ แล้วก็กลับมาท่วมสูงกว่าเดิม คิดว่าน้ำจะไม่ท่วมแล้ว รอบนี้กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อนอย่างรวดเร็ว ทำให้สองคืนท่วมมิด ตนต้องรีบย้ายหน่อกล้วยเก็บขึ้นไปไว้ในที่สูง
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวสำรวจตามเส้นทางพบว่า ถนนภายในชุมชนบริเวณ หมู่ 7 ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วม รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัญจรไปมาไม่ได้ ชาวบ้านต้องนำรถออกไปไว้ด้านนอก
นายสำเริง สุวรรณผล อายุ 74 ปี กล่าวว่า น้ำมารอบนี้ ถือว่ามาเร็วและขึ้นไวมาก คิดว่า กรมชลประทาน มีการระบายน้ำลงท้ายเขื่อนมากเกินไป ทำให้ระดับน้ำมาเร็วและสูงอย่างรวดเร็ว 2 คืน ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ทำให้ถนนในชุมชนถูกน้ำท่วม รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้แล้ว คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก จนรถใหญ่อาจจะสัญจรไปมาไม่ได้ด้วย จึงต้องรีบขนย้ายออกมาจอดริมถนน