บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 19 ต.ค.64 เคลื่อนไหวในแดนลบ จากการขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และหุ้นเอโอที หลังก่อนหน้านี้ปรับตัวขึ้นรับการเปิดประเทศค่อนข้างมาก รวมทั้งปัจจัยความกังวลกับโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,630.39 จุด ลดลง 13.53 จุด หรือ 0.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 96,547.31 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 554.01 จุด ลดลง 4.43 จุด หรือ 0.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,797.09 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นเริ่มให้น้ำหนักการเร่งตัวของเศรษฐกิจหรือกำไรบริษัทจดทะเบียนในระยะถัดไปจะสูงกว่าเงินเฟ้อ สัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา ได้แก่ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตราส 3 ของไทย ซึ่งคาดว่าสิ่งที่นักลงทุนค่อนข้างเป็นกังวลคือหนี้เสียและการตั้งสำรองที่อาจสูงผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 พร้อมทั้งติดตามตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย และจีน ที่กำหนดการรายงานจีดีพีสัปดาห์หน้า หากออกมาดีกว่าคาดอาจเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อการลงทุน จึงเชื่อว่าระยะนี้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,625–1,655 จุด

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.เฮง ปิดที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.91 บาท

2.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง -4.00 บาท

3.ปูนซิเมนต์ไทย ปิดที่ 393.00 บาท ลดลง -9.00 บาท

4.เอโอที ปิดที่ 66.00 บาท ลดลง -1.00 บาท

5.บ้านปู ปิดที่ 12.70 บาท ลดลง -0.30 บาท